1 วัน 2 วัน 3 วันผ่านไป
ไม่ช้าก็ครบหนึ่งเดือน
เฉียนฉีเข้าใจระบบมากขึ้น
ของรางวัลใหญ่เฉียนฉีมักได้เมื่อถึงครบรอบวันที่ 1 5 10 15 20 25 30
และเมื่อครบ 1 เดือน รางวัลที่เฉียนฉีได้ค่อนข้างพิเศษ
-[ติ้ง ท่านทำได้ดีมาก ท่านคือปีศาจแห่งความอดทน ท่านอยู่เฉยๆ โดยไม่ขยับจนครบ 1 เดือน ความอดทนของท่านมันช่างเหมือนปีศาจ ท่านได้รับชีพจรวิญญาณห้าธาตุทองคำ ชีพจรวิญญาณระดับแปดในธรรมเนียบชีพจรเซียน]-
-[ติ้ง ระบบตรวจพบว่าท่านไม่ใช่มนุษย์ ปรับปรุงของรางวัลให้เข้ากับร่าง]-
ต้นสนเล็กที่พึ่งเติบโตบนยอดเขาลี้ลับแห่งหนึ่ง ลำต้นของมันคล้ายค่อยๆ เปลี่ยนสี คล้ายมีสีน้ำตาลอมเหลืองมากขึ้น
เฉียนฉีรู้สึกสบายตัวมาก
ผ่านมาหนึ่งเดือน วิสัยทัยของเฉียนฉีขยับไปไกลมาก มันกินระยะ 10 จั้งแล้ว
‘โอ้ ครั้งนี้ได้รางวัลทำให้ข้ากลายพันธุ์ ชื่อสายพันธุ์ต้นสนของข้าเปลี่ยนอีกแล้ว’
-[เฉียนฉี : ต้นสนทองคำ ‘พื้นวิญญาณระดับต่ำ 8’ หมายเหตุโปรดปกป้องตัวเอง แม้ต้นสนทองคำจะไม่ได้นับว่ามีค่ามากอะไร แต่หากท่านมีอายุร้อยปี แก่นลำต้นจะแข็งมาก ไฟไม่อาจไหม้ เหล่าผู้บำเพ็ญมนุษย์ มาร ปีศาจมักใช้ลำต้นของท่านไปทำเครื่องรางหรืออาวุธ]-
-[อายุขัย : 345 วัน / 15,000 ปี]-
-[ตบะบำเพ็ญ : 12 ปี ]-
-[เคล็ดวิชา : XXX ]-
-[ความสามารถพิเศษ : อดทนประดุจปีศาจ]-
-[ธาตุ : เบญจธาตุระดับต่ำ ‘ขั้นแปด’]-
‘เชี้ย!’ เฉียนฉีร้องคำนี้ออกมาทันทีหลังอ่านข้อมูลจากระบบของตัวเองจบ นี่เขาลืมตาดูโลกไม่นานแต่ก็จะมีศัตรูแล้วงั้นเหรอ
โชคดีที่ต้นสนทองคำต้องมีอายุร้อยปีถึงจะถูกล่า เขาพึงอายุ 345 วัน ยังไม่ครบปีแรกด้วยซ้ำ
‘คงยังไม่มีใครสนใจข้า อย่างน้อยก็อีกหลายปี นอกจากนั้น… ที่ดินแทบนี้มีผู้คนที่ไหน บิดาอยู่มาเกือบเดือน นอกจากเห็นนกบินผ่านเป็นบางครั้ง หมาสักตัวก็ไม่มี’
เฉียนฉีปลอบตัวเอง หากตอนนี้เขาได้เห็นมนุษย์ ระหว่างความกลัวที่จะถูกตัด กับดีใจที่ให้เห็นสิ่งมีชีวิตที่ตัวเองเคยเป็น มันคงเป็นอย่างหลังที่เขารู้สึก
วันเวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ
เฉียนฉีพบว่าตัวเองมีอาการซึกเศร้านิดๆ เขาต้องการพบแพทย์ แต่คงไม่มีแพทย์คนไหนต้องการให้คำปรึกษาเขาในสภาพแบบนี้
ทุกๆ วันเฉียนฉีพบปัญหาหนึ่งที่ทำให้เขาปวดใจ มีภารกิจจากระบบใหม่ๆ มากมายให้เขาทำทุกวัน
แต่ไม่มีภารกิจใดๆ ที่เขาทำได้ นอกจากอยู่เฉยๆ อย่างแข็งแกร่ง
6 เดือนผ่านไป เฉียนฉีชินชากับมันตอนนี้เขาทำใจได้แล้ว ที่จะไม่ได้รับรางวัลจากภารกิจพิเศษอื่นๆ นอกจากการอยู่เฉยๆ
-[ติ้ง ท่านทำได้ดีมาก ต่อจากนี้ข้าจำต้องเรียกท่านว่าอสูรแห่งความอดทนแล้วละ ท่านอยู่เฉยๆ โดยไม่ขยับจนครบ 6 เดือน ความอดทนของท่านมันมันเหนือกว่าปีศาจไป ท่านคืออสูรชัดๆ เมื่อท่านเป็นอสูร ท่านสมควรได้รับสิ่งที่อสูรควรได้ เคล็ดวิชาในตำนาน ‘อสูรเบิกโลกา’ นี่คือเคล็ดวิชาที่สามารถบ่มเพาะได้ถึงตบะแห่งผู้ฝ่าทัณฑ์สวรรค์]-
เฉียนฉีได้ยินเสียงจากระบบ เขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าเคล็ดวิชาในตำนาน ‘อสูรเบิกโลกา’ นั้นล้ำค่าขนาดไหน
ส่วนตบะแห่งผู้ฝ่าทัณฑ์สวรรค์คืออะไร เฉียนฉียิ่งไม่สนใจ
เขาคิดว่ารางวัลนี้ไร้สาระ ได้มาแล้วเขาจะฝึกได้เหรอ
เขาเป็นแค่ต้นไม้…
เฉียนฉีหงุดหงิด เขาหวังที่จะได้อะไรดีกว่านี้ แต่เมื่อเขากดรับรางวัล
-[ติ้ง ตรวจพบว่าท่านคือต้นไม้ ท่านไม่ใช่มนุษย์ อสูรหรือปีศาจ ท่านฝึกเคล็ดวิชาในตำนาน ‘อสูรเบิกโลกา’ ระบบทำการปรับปรุงเคล็ดวิชาให้เหมาะกับท่าน ทำการส่งมอบของรางวัล]-
จบเสียงคำว่า ‘ทำการส่งมอบของรางวัล’
ในห้วงสำนึกของเฉียนฉี ราวกับอยู่มีอสูรต้นไม้ขนาดยักษ์กระโดดลงมาจากรอยแยกมิติ มันเกรี้ยวกราย
หมัดชก มือคว้าจับ ทุกการแสดงออกราวกับว่ามันสามารถแยกฟ้าดินออกจากกันได้
เฉียนฉีตื่นเต้น!!!
นี่คืออนาคตของข้างั้นเหรอ
ของรางวัลยอดเยี่ยม
ข้อมูลมากมายในการฝึกวิชาหลั่งไหลมาในสำนึก พร้อมกับขอบเขตการบ่มเพาะจนไปถึงระดับฝ่าทัณฑ์สวรรค์
‘สัมผัสลมปราณ’ ‘สร้างรากฐาน’ ‘แก่นทองคำ’ ‘ปฐมวิญญาณ – วิญญาณทารก’ ‘แปลงจิตเปลี่ยนวิญญาณ’ ‘หลอมสุญญตา’ ‘กายจิตหลอมรวม’ ‘รู้แจ้ง’ ‘ฝ่าเคราะห์’
การบำเพ็ญเซียนมีตั้งเก้าขอบเขตใหญ่เลยเหรอ เฉียนฉีตกใจ
แต่แม้ถึงจะเยอะก็ไม่เป็นไร เฉียนฉีหมั่นใจ เขามีระบบ หากเริ่มมีแขนมีขา ตัวเขากลายร่างเป็นปีศาจเมื่อไหร่ ไม่ช้าใต้หล้าต้องสั่นสะเทือน
อาจจะเพราะดีใจมาก
และตบะบ่มเพาะของเฉียนฉีถึง 120 ปี แล้ว เฉียนฉีพบว่าเขาสามารถเริ่มขยับร่างกายที่เป็นต้นสนทองคำได้บ้างแล้ว
ต้นไม้สูง 10 จั้งโยกซ้ายขวาไปมาช้าๆ มันมองดูแปลกตาเชียว
นอกหลายตัวจ้องมองเฉียนฉี
ที่นี่ไม่มีใคร นกเขาหลายตัวที่นี่ เฉียนฉีตั้งชื่อให้มัน เฉียนหนึ่ง เฉียนสอง เฉียนสาม… จนถึงเฉียนยี่สิบสี่ นี่คือพี่น้องร่วมบำเพ็ญกับเฉียนฉีบนยอดเขาแห่งนี้
ไม่รู้ว่าพวกมันจะเข้าใจความดีใจของเฉียนฉีหรือไม่
และพวกนกเขาเหล่านี้จะรู้ไหม เฉียนฉีนับว่าพวกมันเป็นพี่น้องกับตัวเขาไปแล้ว
ตอนนี้แม้ร่างของเฉียนฉีจะโยกไปมา
แต่ภารกิจอยู่เฉยๆ อย่างอดทนก็ยังนับเวลาไปข้างหน้าต่อไป เฉียนฉีคิดว่า ความหมายของการอยู่เฉยๆ ที่ระบบระบุ น่าจะเป็นการไม่ขยับร่างกายลุกไปไหน
เขาแค่ขยับกิ่งโยกลำต้น ระบบไม่ว่าอะไร…
พึบพึบพึบ
เหล่านกเขาบินขึ้นฟ้า เฉียนฉีตั้งใจจะโน้มกิ่งไปแตะพวกมัน นกน้อยทั้งหลายตกใจ
‘พี่น้องข้าจากไปแล้ว’
เฉียนฉีเศร้านิดหน่อย
นกน้อยจากไป
เฉียนฉีคิดว่านี่เป็นเวลาดีที่ตัวเองจะเพ่งสมาธิไปที่การบ่มเพาะ เมื่อก่อนบ่มเพาะอย่างไร้แก่นสาร ตอนนี้อยู่ๆ ได้เคล็ดวิชาจากระบบมา ไม่บ่มเพาะก็โง่แล้ว
เส้นทางท่านเซียนปีศาจต้นไม้ตอนนี้เริ่มแล้ว
ด้วยการรับรู้ว่าตัวเองบ่มเพาะไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็สามารถมีแขนขากลายเป็นปีศาจที่มีหน้าตาเหมือนมนุษย์ได้
เฉียนฉีตอนนี้ขยันมาก
ใต้แผ่นดิน ขุนเขาใหญ่ รากของเฉียนฉีคล้ายเปล่งแสง มันดูดซับแร่ธาตุเพื่อปรับปรุงการบ่มเพาะ
เฉียนฉีพบว่าเคล็ดวิชาในตำนาน ‘อสูรเบิกโลกา’ นั้นค่อนข้างเป็นเคล็ดวิชาที่เน้นฝึกกาย ทรัพยากรสำคัญมาก
ฝึกเพียงไม่นานเฉียนฉีรับรู้ถึงปัญหาอย่างหนึ่ง
เขาจะไปหาทรัพยากรจากไหนมาฝึก
การเร่งดูดซับแร่ธาตุจากดิน ด้วยความที่เป็นต้นไม้ ราวกับเป็นการชี้นำจากธรรมชาติ ทำให้เฉียนฉีรู้ว่า หากเขาดูซับแร่ธรรมชาติจากพื้นดินรอบบริเวณมากเกินไป เขาจะทำลายระบบนิเวชของที่นี่
เฉียนฉีจึงดูดซับมันแค่พอดีแล้วหยุด
ในสำนึกเฉียนฉีถอนหายใจ
‘ข้ายังต้องอยู่ทีนี่อีกนาน ข้าไม่ควรรีบร้อน การเร่งฝึกฝนอาจสร้างปัญหามากกว่าข้อดี จากการคาดเดา ยิ่งข้าอยู่นิ่งๆ นานเท่าไหร่รางวัลต่อๆ ไปยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น หากข้าอยู่ที่นี่ซักร้อยปี พันปี ข้าไม่กลายเป็นเทพปีศาจต้นไม้ที่ไร้พ่ายเหรอ… คิกคิก แค่คิดก็น่าสนใจ ข้อเสียอย่างเดียว ที่นี่นะ… มันเหงาไปสักนิด’