อึก อึก อึก… ในโลกแห่งความจริง เทวรูปปีศาจจิ้งจอก ส่งสายเลือดของมันให้หลี่เค่อมากขึ้น จนทำให้ หางจิ้งจอกในร่างปีศาจของหลี่เค่องอก
หางเล็กๆ หางที่สอง งอกอย่างช้าๆ เมื่อมันงอกยาวได้ 1 ใน 4 ส่วนของหางจิ้งจอกเดิม ร่างปีศาจหางหยุดเติบโต
‘ยิ่งโหดเหี้ยม สมบัติจากเทพปีศาจบรรพกาลยิ่งพอใจงั้นเหรอ… มันเลยเพิ่มสายเลือดปีศาจให้ข้า’ หลี่เค่อพูดกับตัวเอง ระหว่างนี้เขาสังเกตร่างสวินเลียนภายในโลกมายา หลี่เค่อแปลกใจเล็กน้อย ‘ไม่ใช่ว่าโลกมายากับโลกแห่งความจริงมันเชื่อมโยงและสะท้อนกันราวกระจกงั้นเหรอ ทำไมร่างเด็กปีศาจสวินเลียนในโลกมายาถึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยเมื่อข้าได้รับสายเลือดจากเทวรูปปีศาจเพิ่ม’ แต่หลี่เค่อคิดแบบนี้ได้เพียงไม่กี่อึดใจ
ในโลกมายา ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยปรากฏในความทรงจำของชายชราที่หลี่เค่อฆ่าปรากฏ
…
อยู่ๆ ก็มีเสียงบุรุษดัง
“นิ… นิพวกเจ้า…” เสียงบุรุษฉกรรจ์ที่เต็มไปด้วยความตกใจดัง ร่างหนึ่งลอยลงมาจากเบื้องสูงสายตาเขามองไปที่ศพของ…ผู่ชาง ทั่วร่างบุรุษผู้นี้อยู่ในชุดคลุม ใบหน้ามีหน้ากากดุร้าย “บัดซบใครที่ฆ่าผู่ชางบุตรชายของนายท่านผู่หลุน”
เด็กๆ ปีศาจชี้มาที่หลี่เค่อ
หม่าอิ๋งอิ๋งร่างเด็กรีบเดินเร็วขากะเผลก ก่อนคุกเข่ากล่าวคำอ้อนวอน
“นายท่านโปรดเมตตา พี่ชายข้าทำเพื่อข้า พวกเราไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว ผู่ชางเก็บอาหารไว้คนเดียว เขาไม่แบ่งใครเลยตั้งแต่นายท่านทูตขุนเขาพูดว่า ‘อาหารในกู่ถ้ำใครอยากกินเท่าไหร่ก็กิน แต่พวกเจ้าต้องแย่งชิงกันเอง หากใครโง่เง่าไม่ได้ความจะตายเพราะไม่อาจจะแย่งชิงอาหารก็ตายไปเสีย กู่ถ้ำแห่งนี้จะเลี้ยงแต่ผู้ใช้งานได้’ เมื่อผู่ชางได้ยินแบบนี้เขาก็ไม่แบ่งอาหารใครเลย พี่ข้าจึงต้องใช้กำลังเพื่อให้ได้อาหารมาเจ้าคะ”
มือทูตขุนเขาสั่นเกร็ง
แม้ชายคนนี้จะสวมเสื้อคลุกและหน้ากาก แต่เพียงแววตาที่มองลอดออกมา หลี่เค่อรับรู้ชายคนนี้อยากจะฆ่าเขาเต็มทน
ทูตขุนเขาที่ปรากฏตัวมันห้ามใจ พร้อมแหงนมองไปเบื้องสูงของถ้ำหลายมุม ณ มุมที่มันจ้องไป ต่างมีไข่มุกประดับอยู่
ดวงตาหลี่เค่อมองตามทูตขุนเขาบ้าง เมื่อเพ่งมองไข่มุกอย่างละเอียด หลี่เค่อพบว่านี่ไม่ใช่ไข่มุกธรรมดา
แต่เป็นไข่มุกลงอาคม เป็นสมบัติวิเศษประเภทใช้จับตาดูผู้คน หากพูดอธิบายภาษาโลกเก่าของหลี่เค่อ ไข่มุกประดับนี้คือกล้องวงจรปิดที่ใช้จับตาผู้คนดีๆ นี่เอง หลี่เค่อเข้าใจแล้วว่าทำไมทูตขุนเขาไม่กล้าลงมือ
ที่แท้มันก็ทำไม่ได้ น่าจะเป็นกฎของที่นี่
ใต้เสื้อคลุมยาวทูตขุนเขาคล้ายเกร็งมือเป็นท่ากรงเล็บ มีเล็บงอกยาว หลังมือทูตขุนเขา ขนลายเสืองอก สิ่งนี่ปรากฏครู่เดียวก่อนหายไป
หลี่เค่อเข้าใจทันทีทำไมทูตขุนเขาโกรธขนาดนี้ ที่แท้มันก็เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับผู่ชาง ไม่แน่อาจจะมาจากตระกูลเดียวกันและมีความเชื่อมโยงไม่ทางใดทางหนึ่งกับผู่ชาง
ตอนแรกหลี่เค่อคิดว่าเด็กๆ ที่ถูกส่งมาที่นี่ทุกคนคือกระสุนปืนใหญ่ที่ถูกทอดทิ้ง ตอนนี้รับรู้ว่าไม่จริงเสียแล้ว
แต่หลี่เค่อลงมือไปแล้วเขาย่อมไม่มีความอาลัย
นอกจากนั้นยังมั่นใจด้วยว่าตัวเองจะไม่ตายที่นี่ เมื่อครู่พึ่งได้รางวัลจากเทวรูปปีศาจ เรื่องราวในโลกมายาถูกกำหนดโดยมัน
ดังนั้นเทวรูปปีศาจน่าไม่ปล่อยให้หลี่เค่อตายง่ายๆ โดยการต่อสู้กับปีศาจระดับห้า ขณะที่ตัวเขายังเป็นเสมือนคนธรรมดาแบบนี้
และสิ่งที่หลี่เค่อคิดก็เป็นจริง
“ดีเจ้าทำได้ดีมากๆ” เสียงทูตขุนเขาพูด ขณะพูด มันเหมือนตัวสั่นนิดๆ “เนื่องจากเจ้าทำได้ดี ข้าจะให้รางวัลเจ้า”
“หูๆๆๆๆๆ” เสียงประหลายใจของเด็กๆ ปีศาจดังระงม ที่นี่คล้ายไม่ต้องการคนดี แต่ต้องการคนชั่วช้าที่เหยียบย่ำคนอื่นได้สินะ เด็กๆ คิดในใจกันแบบนี้
หลี่เค่อไม่สนใจเสียงของผู้คนเขาทำเพียงโค้งกายนอบน้อม
ทูตขุนเขาโยนขวดโอสถมาให้หลี่เค่อ
“นี่เป็นรางวัลของเจ้า ข้าให้มันกับเจ้าและน้อง กินมันซะ เจ้าจะแข็งแกร่งมากขึ้น” น้ำเสียงช่วงท้ายค่อนข้างแฝงความเย้ยหยัน กล่าวจบทูตขุนเขาลอยตัวจากไป
หลี่เค่อเดินไปหยิบขวดและเปิดจุกยา
กลิ่นเลือดเข้มข้นลอยออกมา
หลี่เค่อเทขวดยา โอสถสองเม็ดหล่นมาบนมือหลี่เค่อ
ในฐานะผู้ศึกษาตำราของเทพโอสถโอวหยาง แม้หลี่เค่อไม่เคยหลอมโอสถของเหล่าปีศาจ เขาก็รู้จักโอสถเม็ดนี้
‘โอสถฝ่าขีดจำกัดสายเลือดของพวกปีศาจนิ ไอ้เจ้านี่ให้ของดีแต่… ประสงค์ร้ายของมันไม่แอบซ่อนเลยนะ หากปีศาจทั่วไปกินโอสถฝ่าขีดจำกัดสายเลือดเม็ดนี้ 9 ใน 10 ส่วนตาย หนึ่งส่วนที่รอดก็มีโอกาสพิการ นี่มันการวางยาพิษกันชัดๆ’ หลี่เค่อขำขันในใจ นี่เทวรูปปีศาจต้องการให้เขาตายงั้นเหรอจึงสร้างเรื่องราวแบบนี้
หลี่เค่อคิดสับสนในใจ พยายามตีความหมายของการได้โอสถฝ่าขีดจำกัดสายเลือดมาในมือ
เพียงแต่ไม่ช้าประสงค์ของเทวรูปปีศาจก็เฉลยด้วยตัวละครเล็กๆ มาช่วยแก้ปมและผูกความแค้น
“เอ๋สหาย อย่าพึ่งรีบกิน” เด็กปีศาจที่มีรูปร่างเหมือนเด็กชายอายุ 13 14 วิ่งมา
เด็กปีศาจผู้นี้มีลักษณะของเต่า แผ่นหลังมีกระดองใหญ่อยู่ทำให้เวลาเดินดูต้วมเตี้ยม
“ข้ามีนามว่า ‘เหอฉี’ , ตระกูลเหอของข้าเป็นตระกูลนักหลอมโอสถ ในมือของเจ้าคือ ‘โอสถโถมคลื่นโลหิต’ หากเจ้าเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้วกินมันจะไม่เป็นปัญหา มันจะช่วยขัดเกลาสายเลือดของเจ้า และทำให้เจ้าฝ่าทะลวงระดับขั้นได้ แต่ตอนนี้เจ้ากับน้องยังอายุไม่ถึง 7 ขวบใช่หรือไม่ เช่นนั้นอย่ากินมัน”
เหอฉีมาเฉลยคำตอบ
ไม่ช้าเหอฉีที่มีใบหน้าดูทรงคุณธรรมกัดปาก ทำท่าคล้ายเจ็บแค้น “พวกปีศาจเลือดพยัคฆ์ช่างโหดร้าย มันแก้แค้นที่เจ้าฆ่าลูกหลานมันโดยตรงไม่ได้จึงวางอุบาย สหายข้าเกรงว่าทูตขุนเขาผู้นั้นน่าจะมาจากตระกูลปีศาจสายเลือดพยัคฆ์ ต่อจากนี้เจ้าทำอะไรต้องระมัดระวังตัว ในที่แจ้งเขาอาจจะทำอะไรเจ้าไม่ได้ แต่ลับหลัง…” เสียเหอฉีถอนหายใจดัง
“ทำไมเจ้าช่วยข้า…” หลี่เค่อถามไม่ใช่ว่าเขาต้องการคำตอบจากเหอฉีจริงๆ
เพียงแต่ต้องการทำความเข้าใจลูกเล่นของเทวรูปปีศาจที่ควบคุมโลกใบนี้ เขาอยากรู้ว่ามันลึกลับเพียงไหน และมันอ่านความคิดของตัวเขาตอนนี้ได้รึเปล่า แต่สถานการณ์ในภาพรวมหลี่เค่ออนุมานว่า เทวรูปปีศาจไม่อาจอ่านความคิดของตัวเองในปัจจุบันได้ เพราะหากมันอ่าน มันจะรู้ทันทีว่าตัวหลี่เค่อ รู้เรื่อง ‘โอสถเถาคลื่นโลหิต’ กินไม่ได้
เหอฉีหัวเราะไปอธิบายไป มันบอกว่าชอบหลี่เค่อที่มีความกล้า นอกจากนั้นเด็กร่างเต่าก็พูดว่าตัวมันเกลียดพวกปีศาจสายเลือดพยัคฆ์เข้าไส้ เพราะพวกนี้เห็นแก่ตัวชั่วช้า นอกจากนั้นยังเป็นพวกผิดคำสาบาน ฆ่าพี่น้องเพื่ออำนาจและชีวิตอมตะ
หลี่เค่อได้ยินประโยค ‘ผิดคำสาบาน ฆ่าพี่น้องเพื่ออำนาจและชีวิตอมตะ’ ในใจขีดเส้นใต้สีแดง และตีความหมายที่เหอฉีสื่อได้ทันที
‘เทวรูปปีศาจต้องการให้ข้าและผู้สืบทอดของมันรับรู้ความเป็นปฏิปักษ์กับปีศาจสายเลือดพยัคฆ์สินะ จึงสร้างเรื่องราวแบบนี้ ข้าจำได้ว่าในความทรงจำของปราชญ์เฒ่าที่ข้ากลืนวิญญาณ ในชีวิตของมันช่วงเด็กที่ถูกจับไปฝึกเป็นนักฆ่า ไม่มีเรื่องราวการเป็นศัตรูกับคนตระกูลใดแบบนี้’
หลี่เค่อพยักหน้ายอมรับ ก่อนเก็บ ‘โอสถโถมคลื่นโลหิต’ เม็ดหนึ่งเก็บไปในขวด ส่วนอีกเม็ด… หลี่เค่อโยนเข้าปากทันที
“สหายเจ้าจะทำอะไร” เหอฉีต้องการห้ามหลี่เค่อ มือปรารถนาคว้าจับเม็ดโอสถที่กำลังเข้าปากหลี่เค่อ แต่เหอฉีห้ามไม่ทัน
เหอฉีเดินเร็วเข้าหาหลี่เค่อ เขาต้องการบีบปากหลี่เค่อให้หลี่เค่อคายเม็ดโอสถออกมา
แต่หลี่เค่อก้าวหลบหลีกง่ายดาย
เหอฉีล้มแต่ยังไม่วายเป็นห่วงหลี่เค่อ
“เร็วรีบคายออกมา เจ้าจะตายได้นะ สวินเลียนทำไมเจ้าไม่เชื่อข้า”
ทั่วร่างหลี่เค่อเส้นเลือดปูดนูน ความเจ็บปวดที่ราวกับมีดกรีดหัวใจปรากฏทุกส่วนในร่าง
“พี่” หม่าอิ๋งอิ๋งเดินเร็ว พร้อมส่งเสียงเป็นห่วง
แม้ทั้งร่างจะมีสภาพประหลาด จนทำให้ร่างหลี่เค่อดูน่าหวาดกลัว
แต่หลี่เค่อตอนนี้เขากลับ เดินก้าวอย่างสามัญ ไปหยิบห่ออาหารบนโขดหิน หลี่เค่อเกะห่ออาหารและมองเลือก เหล่าเด็กปีศาจงงงัน พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังมองคนบ้าที่น่าหวาดกลัว
หลี่เค่อรู้ว่าหม่าอิ๋งอิ๋งชอบอาหารทะเล เขาเลือกห่อข้าวหมักปู หลี่เค่อหยิบมันและเดินถือไปให้…