!!!แปะ!!!แปะ!!!แปะ
เสียงตบมือของเล้าหวา ในเรือท่องจักรวาลตอนนี้เล้าหวาและเหล่าบริวารของมันกำลังเร่งทำงานบางอย่างอย่างรีบร้อน
“นั่นพวกเจ้าอย่าได้แต่มัวตกตะลึงและชื่นชมความยิ่งใหญ่ของท่านจอมมารซี่ นี่มันใช่เวลารึ หน่วยจับภาพเร่งขยายภาพตอนที่ท่านจอมมารกอดร่างเด็กน้อยสิ นอกจากนั้นหน่วยทำเสียงนี่มันไม่ใช่ว่าพวกเจ้าควรใช้เพลงประกอบที่ตราตรึงใจรึ ฉากแบบนี้มันเรียกน้ำตาสตรีได้มากนักเร่งมือเร็ว!!! ” เล้าหวาตอนนี้ตะโกนก้องใบหน้าจริงจังนัก แต่ถึงอย่างนั้นช่วงครู่หนึ่งก็มีรอยยิ้มพร้อมพูดกับตัวเองเบาๆ “ตอนนี้ท่านจอมมารเหนือโลกกำลังแสดงความรักอันยิ่งใหญ่อยู่นะ พวกเรานะ… พวกเราคือผู้ที่จะผลักใดท่านไปสู่จุดสูงสุดแห่งความยิ่งใหญ่ เป็นตำนานแห่งทวยเทพที่จะไม่มีวันจางหายแม้จะอีกนานแสนนาน ไม่น่าเชื่อข้าเล้าหวาจะมีวาสนาได้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้”
เล้าหวาตอนนี้แอบกำหมัดในใจปรากฏความสุขอันยิ่งยวด หากแต่ในไม่ช้าเสียงร้องดังก็รอดออกมาจากกลุ่มคนนับพันในห้องโถงกว้างที่คล้ายเต็มไปด้วยสมบัติวิเศษประเภทต่างๆ
“นายท่านพวกเราใส่เสียงนางสวรรค์ บทเพลงนางชวนฝันเสร็จแล้วขอรับ”
เล้าหวาตอนนี้พยักหน้ารับอย่างพอใจ พร้อมดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรีและฉากอันตระการของท่านจอมมารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาอันแสนจะบริสุทธิ์
ไม่น่าเชื่อเพียงแค่ได้รู้จักกับท่านจอมมารเพียงไม่นาน ท่านกลับเล็งเห็นพรสวรรค์อันร้ายกาจของมันที่เคยเป็นเทพสื่อสาร ซึ่งชำนาญด้านการฉายภาพทำสื่อและข่าวสารให้กับเหล่าราชันย์สวรรค์ระดับสูงมาก่อน
หากแต่ตอนนี้สิ่งที่เล้าหวาไม่อาจจะคิดนึกก็คือ อุปกรณ์ฉายภาพและทำเสียงที่ท่านจอมมารเหนือโลกมีนั้นกลับวิเศษยิ่งกว่าของเทพมารตนใดๆ จริงๆ
มันคล้ายกับว่าการตัดต่อภาพฉากใดๆ ช่างง่ายดังใจนึก
แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้กลับมีบริวารของเล้าหวานับพันอยู่ที่นี่
และทำไมต้องมีมากมายถึงเพียงนี้
ไม่ช้าในมุมหนึ่งของห้องก็มีคนร้องตะโกนดัง
“นายท่านเล้าหวาขอรับดารามนุษย์มารแดนสมุทรตอนนี้เหล่าผู้คนต่างร่ำไห้ บรรยากาศของผู้คนทั่วดาราตอนนี้ดูเหมือนจะคล้อยตามภาพความยิ่งใหญ่ของท่านจอมมารเหนือโลกแล้วขอรับ เมื่อสัปดาห์ก่อนตอนอยู่ต่อหน้าท่านจอมมารพวกมันยังคล้ายแข็งขืนและไม่เชื่อมั่นในท่านจอมมารเหนือโลกของพวกเราเท่าไร หากแต่พอฉายภาพการต่อสู้ของท่านจอมมาร และการช่วยเหลือเด็กน้อยเผ่าจตุหัตถ์ ดูท่าความเคลือแคลงใจต่อท่านจอมมารเหนือโลกของพวกเราน่าจะหมดไปจากใจของพวกมันแล้ว เอ๋… นายท่านเล้าหวาข้าน้อยขอเวลาสักครู่นะขอรับ ตัวแทนราชันย์ของมนุษย์มารแดนสมุทรติดต่อข้าน้อยมาขอรับ”
บริวารแห่งเล้าหวาเงียบหายไปครู่สั่นก่อนจะรีบร้องตะโกนอย่างดีใจ
“!!!นายท่านเล้าหวาขอรับ ยินดีด้วยขอรับดารามารแดนสมุทรตอนนี้ติดต่อมาแล้วขอรับว่าจะขอภักดีต่อท่านจอมมารเหนือโลก พร้อมเป็นมือเป็นเท้าให้กับท่าน นอกจากนั้นพวกมันยังบอกอีกว่า ขออภัยท่านจอมมารเหนือโลกเหลือเกินที่ได้พูดจาไม่ดีไป พร้อมขอร้องให้ท่านจอมมารได้โปรดเป็นผู้ปกครองพวกมันและคนของพวกมันด้วยขอรับ”
เล้าหวาได้ยินเช่นนี้พยักหน้ารับและยิ้มอย่างมีความสุข
“คนของดาราแห่งนี้มีคนเท่าไหร่นะ”
“จากที่บันทึกไว้หลังจากที่ท่านจอมมารเหนือโลกได้เข้าไปช่วยเหลือ ปัจจุบันน่าจะมีเหล่ามนุษย์มารอยู่ที่ราวๆ 5,500 ล้านคนขอรับ”
“อืมอืม แม้ผู้คนจะน้อยไปหน่อยก็ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งต่อพวกมันไปทันทีว่า 1,000 ปี ต่อจากนี้ท่านจอมมารเหนือโลกไม่ได้ต้องการดวงแก้วหรือทรัพยากรใดๆ จากพวกมัน ให้พวกมันฟื้นฟูดินแดนของตัวเองได้อย่างอิสระ หากเพียงแต่ ถ้ามันศรัทธาท่านจอมมารเหนือโลกจริงต้องนำบัญญัติของท่านจอมมารเหนือโลกไปใช้ ใต้หล้าที่ท่านจอมมารเหนือโลกปกครองจำต้องมีความสุขสงบและความยุติธรรม รู้จักคุณธรรม หลักแห่งฟ้าดิน นอกจากนั้นยังต้องมีรูปสักการะของท่านพร้อมสร้างสำนักคุณธรรมเหนือโลกทั่วดาราแห่งมัน หากทำไม่ได้ก็ถือว่าเป็นบริวารแห่งท่านไม่ได้” เล้าหวาตอนนี้กล่าววาจาน้ำเสียงจริงจังแล้ว
“นายท่านเล้าหวาทางดาราแดนสมุทรไม่มีปัญหาขอรับพร้อมปฏิบัติตามทันที”
เล้าหวาได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มอีกคราว และในไม่ช้า ไม่ใช่แค่มนุษย์มารแดนสมุทร ยังมีอีกหลายดารานักที่ต่างเร่งทยอยติดต่อมาหาเล้าหวาในเรื่องราวที่ต่างกันไป
.
.
.
– [ดารามารมุกสิก] –
“ท่านพ่อขอรับข้าอยากเทพนักรบภายใต้ท่านจอมมารเหนือโลกขอรับ” เด็กน้อยร่างเล็กคนหนึ่งพูดขึ้นพลางน้ำตาไหล มองจ้องท้องนภาที่ตอนนี้มีภาพฉายฉากตระการแห่งหนึ่งบุรุษ ที่ดูแสนจะยิ่งใหญ่และอบอุ่น
ไม่ช้าผู้เป็นบิดาที่อยู่ไม่ห่างก็ปาดเช็ดน้ำตาของตัวเอง มองจ้องลูกน้อย
“ห่าวหรานลูกพ่อ เกรงว่าอีกนานกว่าเจ้าจะได้เป็นนะ หากแต่บิดาของเจ้านี่สิ นับตั้งแต่พรุ่งนี้บิดาจะเร่งรัดการบำเพ็ญและจะไปยังสำนักคุณธรรมเหนือโลก บิดาของเจ้าตัดสินใจแล้ว ต่อจากนี้เป็นตายก็ต้องรับใช้ท่านจอมมารให้ได้ ไม่น่าเชื่อนอกจากท่านจะช่วยปลดปล่อยพวกเราชาวมารมุสิกแล้ว ท่านยังช่วยปลดปล่อยสรรพชีวิตอื่นๆ อย่างไม่แบ่งแยกอีก ท่านช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน”
“ท่านพ่อข้าไปด้วย”
“ฮะฮาฮา ได้สิงั้นพรุ่งนี้พวกเราพ่อลูกก็ไปด้วยกัน”
ไม่ช้าสตรีร่างเล็กก็เดินผ่านเส้นทางใต้ดินขึ้น
“หากพวกเจ้าพ่อลูกไปก็ต้องพาข้าคนนี้ไปด้วยสิ”
สองพ่อลูกหันมองพร้อมเห็นสตรีคุ้นเคยไม่ช้าก็มีแต่เสียงหัวเราะก่อนมองภาพฉายอันตระการเหนือท้องนภาร่วมกัน
และไม่ใช่แค่ที่ดารามารมุสิกที่เป็นเช่นนี้
หากแต่ช่างมากมายนัก ที่ชาวมนุษย์มารต่างหวั่นไหว
.
.
.
– [ดารามารจตุหัตถ์] –
ตอนนี้มีบางคนได้ส่งเสียงจิตจากเรือท่องจักรวาลมาหาฉินเทียน ทำเอาไอ้มิจฉาชีพมันมีความสุขนัก
‘อาาา เสียงดังระรัวพวกนี้ คิกคิก ใช่แล้ว ใช่แล้ว แม้บิดาไม่ต้องจ้องมองก็รับรู้ได้ กร๊ากๆ นี่มันเสียงทาสแต้มบุญของบิดานี่น่ากร๊ากๆ เป็นไปตามแผน รอบที่แล้วๆ มานับว่าได้เรียนรู้ความผิดพลาด อย่างไอ้พวกฉิบหายเผ่าอะไรนะ ไอ้แดนสมุทรอะไรนั้น บิดาก็กลัวว่าพวกมันจะมีผู้บาดเจ็บล้มตายมาก รีบเร่งช่วยเหลือพวกมันตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่เหล่าไอ้พวกแซ่หลิวจะไปกวาดล้างพวกมัน หากแต่ที่ไหนได้ ไอ้ฉิบหายพวกนี้ไม่สำนึกบุญคุณ ยังหาว่าบิดาเป็นพวกผู้โหดร้ายสังหารคนไม่เลือกอีก แทบอยากจะฆ่ามันเสียตรงนั้น หึหึหึ หากแต่พวกเอ็งยังนับว่าโชคดีที่กลับตัวทัน ยังเลือกนอบน้อมต่อบิดาอยู่บ้าง แม้จะเสแสร้ง แต่นั่นก็ทำให้บิดาตั้งจุดฉายภาพของบิดาได้ หึหึ และสุดท้ายการโฆษณาของบิดาก็ได้ผล พวกเอ็งในที่สุดก็ต้องเป็นทาสแต้มบุญของบิดากันจนหมดกร๊ากๆ’
และในไม่ช้าฉินเทียนก็ส่งเสียงจิตกลับไปหาเล้าหวา
“และไอ้พวก มารร่างเขียว มารขมเคี้ยวและมารร่างทองละ”
ตอนนี้เล้าหวาคล้ายกล่าวน้ำเสียงติดขัดเล็กๆ
“ไอ้พวกนี้ค่อนข้างจิตใจหยาบกระด้างนะขอรับท่านจอมมาร รอบที่แล้วพวกเราไปช่วยเหลือพวกมันไว้ หากแต่พวกมันกลับไม่รู้สำนึกบุญคุณ นอกจากนั้นยังไม่มีความเคารพต่อท่านจอมมารแม้แต่น้อย ตอนนี้ภาพฉายที่แสนประทับใจของท่านจอมมารได้ฉายไปในดาราของพวกมันแล้ว หากแต่คนที่มีใจและมีศรัทธาต่อท่านจอมมารดูเหมือนจะมีแต่ผู้เป็นชนชั้นสามัญของดารา ณ ขอรับ หากแต่เหล่าผู้ที่อยู่ชนชั้นปกครองกลับไม่มีใครสนใจเท่าไร ข้าน้อยให้คนจับตาพวกมัน พบว่าภาพฉายอันยิ่งใหญ่ของท่านแม้ปรากฏเหนือท้องนภา หากแต่ไอ้คนเหล่านั้นกับนอนกกสตรีไม่สนใจออกมารับชมแม้แต่น้อย พวกมันช่างน่าตายจริงๆ”
ฉินเทียนได้ยินแบบนี้แอบหัวเราะเห่อๆ ในใจ โดยที่ใบหน้าภายนอกยังนิ่งแฝงความสงบเย็น เข้ากับบรรยากาศแห่งชาวดาราจตุหัตถ์ที่ตอนนี้ต่างมีรอยยิ้ม พ่อแม่ลูกได้พบกัน สงครามจบแล้ว ผู้เลวทรามถูกลงโทษ
“เช่นนั้นก็จัดการตามแผน 2 เถอะ ในเมื่อข้าช่วยพวกมันแล้ว แต่พวกมันไม่รู้สำนึก เช่นนั้นปล่อยเส้นทางดาราของมันแก่เหล่าผู้แซ่หลิวที่เหลือรอดไป ไอ้พวกนี้มีถึง 5000 กลุ่ม ตอนนี้พวกมันคงเร่งสร้างผลงาน ดาราใดที่ไม่สยบให้บิดา บิดาก็จะแกล้งปิดตาข้างหนึ่งปล่อยให้มันฉิบหายไป”
“ท่านจอมมารช่างยิ่งใหญ่” เล้าหวาพูดกล่าวด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้มันอยู่กับท่านจอมมารเหนือโลกมาเดือนกว่าแล้ว เริ่มรู้นิสัยแท้จริงของท่านจอมมาร ที่แม้ท่านจะเป็นคนดี หากแต่กลับเป็นพวกชอบสร้างภาพ เล้าหวาที่ได้มาทำงานเบื้องหลังทำให้ได้คล้ายเห็นธาตุแท้ของท่านจอมมาร
หากแต่พอได้พบเห็นกลับหาได้รังเกียจไม่ หากแต่ชอบเสียอีก มันคิดอ่านคนแบบนี้แหละคือผู้ที่จะเป็นใหญ่ หากดีจนเกินไป เล้าหวาก็คล้ายจะไม่ชอบพอ
ในโลกที่วุ่นวายเลือดต้องล้างด้วยเลือด
เพียงแต่กว่าการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งก็นับว่าเป็นพวกคนโง่
มันต้องแบบท่านจอมมารเหนือโลกผู้นี่สิที่มาพร้อมสติปัญญา มีลูกล่อลูกชน ยิ่งเล้าหวาใกล้ชิดมันก็ยิ่งรู้สึกมีศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อท่านจอมมาร
.
.
.
ส่วนไอ้มิจฉาชีพที่เหลือเล้าหวามาทำงานเบื้องหลัง ก็เพราะมันได้ตรวจสอบอุปนิสัยของเล้าหวาผู้นี้มาแล้ว พบว่าไอ้นี่แหละคนในฝัน ที่ทำงานมิดชิดเก็บความลับได้ นอกจากนั้นงานดีงาม หรืองานด้านมืดเล้าหวาผู้นี้ก็ไม่เกี่ยงงอน พร้อมกันนั้นคนของมันก็ยัง… คิกคิกคิก เกินครึ่งก็ไม่ใช่คนดีอะไร เรียกว่าส่วนใหญ่เป็นพวกเทาๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีข้อดีอยู่ ตรงที่เหล่าบริวารของเล้าหวานั้นมันเป็นพวกหน้ามืดตามัว หากศรัทธาใครแล้วแปรเปลี่ยนได้ยาก ไอ้มิจฉาชีพรู้ข้อนี้จึงเลือกใช้พวกมัน พร้อมเผยให้เห็นด้านเทาๆ ทำเอาคนผู้นี้ถูกใจท่านจอมมารนัก
นี่ถ้าหากเป็นคนดีกว่านี้พวกมันคงไม่พร้อมใจทำงานกับท่านจอมมารเหนือโลกเป็นแน่
.
.
.
“!!!ท่านจอมมาร ช่วงเวลาสำคัญแล้วขอรับ” เล้าหวาตอนนี้ร้องเตือนไอ้มิจฉาชีพ ไม่ช้าก็รีบกล่าวต่อว่าจะเริ่มจับภาพท่านพร้อมใส่เสียงเพลงอย่างอลังการแล้วนะขอรับ
ฉินเทียนได้ยินเช่นนี้ ก็รีบตั้งสติตัวตรงทำทีท่าสง่างามแล้ว
“5… 4… 3… 2… 1… 0” เสียงเล้าหวานับถอยหลัง
และในขณะนั่นเอง
เหล่ามนุษย์ชาวจตุหัตถ์นับล้านที่เป็นผู้บำเพ็ญ ต่างโบยบินมาที่ที่เดียวกัน
ไช่หยางที่คล้ายเป็นผู้นำดาราแห่งนี้ มันก้าวเท้ามาตรงหน้าของไอ้มิจฉาชีพ พร้อมพาเหล่ามนุษย์มารทั้งหลายก้มกราบ
และไม่ใช่แค่ก้มกราบธรรมดา หากแต่กราบไปก็ร้องห่มร้องไห้ไป ช่างเป็นซีนอารมณ์ที่ยิ่งใหญ่ เส้นผมของให้มิจฉาชีพปลิดปลิวแม้ไม่มีลม เพราะมันใช่ฤทธาเงียบๆ ขับแน่นความสง่างามของตัวเอง
“ขอบคุณ… ขอบคุณท่านผู้มีคุณ พวกเราชาวจตุหัตถ์ไม่รู้ว่าจะกล่าวขอบคุณบุญคุณครั้งนี้ของท่านอย่างไรดี แม้จะใช้ชีวิตของข้ามอบให้ท่านก็เกรงว่าจะไม่พอ”
ฉินเทียนตอนนี้ยังยื่นนิ่งรับฟัง มันเงยหน้าเล็กน้อยพร้อมหันตัวเบี่ยงเพื่อให้แสงตกกระทบใบหน้าอย่างได้มุมมากยิ่งขึ้น นั่นเพราะไอ้ฉิบหายเล้าหวา บอกให้เอียงซ้ายเชิดหน้าเสียหน่อย แสงแดดจะฉายอาบใบหน้านายท่านอย่างได้มุมยิ่งขึ้น ภาพฉายของท่านจะดูสง่างามราวทวยเทพเมื่อถ่ายทอดไปยังดาราบริวาร ได้ยินเช่นนี้ไอ้มิจฉาชีพมันเลยได้แต่ทำตาม
“!!!ท่านผู้มีคุณ ข้าไช่หยางมีเรื่องจะขอร้องท่าน…”
ฉินเทียนตอนนี้มองต่ำเล็กน้อยแล้ว ‘ไอ้นี่มันจะขอร้องอะไรนะ อย่าบอกนะจะไล่บิดาแบบไอ้พวกฉิบหายดาวแดนสมุทรมาร พวกร่างเขียว มารขมเคี้ยว หรือมารร่างทอง หากเอ็งทำแบบนั้นบิดาจะระเบิดดาวพวกเอ็งและเอาไปแต่คนที่ศรัทธาบิดาเลยนะ จะหาว่าโหดร้ายไม่ได้นะ’
หากแต่แม้ไอ้มิจฉาชีพจะคิดแบบนี้ หากแต่ความจริง
“ได้โปรดให้พวกเราเผ่าจตุหัตถ์เป็นแขนเป็นขาให้ท่านด้วยเถอะขอรับ แม้พวกเราจะต่ำต้อยและไร้พลัง หากแต่ท่านผู้มีคุณโปรดเมตตา ไม่ว่าท่านจะให้พวกเราทำอะไร พวกเราก็จะทำ เมื่อครู่ข้าได้ใช่เสียงจิตสื่อสารกับพี่น้อง ตอนแรกข้าหวังเพียงจะถวายตัวเพื่อท่านเพียงผู้เดียว หากแต่ไม่น่าเชื่อ ความประสงค์ของเหล่าพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์อีกนับแสนก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พวกเราชาวจตุหัตถ์นั้น หากผู้ใดมีคุณกับพวกเรา เราต้องชดใช้คืน หากมีความแค้นพวกเราก็ต้องชำระ ท่านผู้มีคุณท่านได้โปรดเมตตาพวกเรา ให้พวกเราได้ตอบแทนความเมตตาของท่านที่ช่วยเหลือพวกเรานับล้านชีวิตด้วยเถอะ ได้โปรด”
และในไม่ช้า ชาวจตุหัตถ์ที่เป็นผู้บำเพ็ญนับล้านก็ต่างเปล่งเสียงกล่าววาจาเหมือนๆ กัน
และด้วยเสียงนี้ โลกทั้งใบคล้ายต้องสั่นไหว
ภาพฉายเหนือห้วงดารานับสิบ ผู้คนที่รับชมภาพการสยบยอมของชาวจตุหัตถ์ อยู่ดีๆ ก็คล้ายขนลุกซู่ ภาพและเสียงเหล่านี่มันช่าง…
อัดแน่ไปด้วยศรัทธาและความจริงใจที่หาได้เสแสร้ง
บางคนรับชบเรื่องราว อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลพรากอีกรอบ
และทันทีที่ชาวจตุหัตถ์ก้มกราบเสร็จ
เสียงระบบศาลเทพสวรรค์ของไอ้มิจฉาชีพก็ดังไม่หยุดเช่นกัน
ตอนนี้ฉินเทียนจ้องมองไช่หยางผู้นี้อย่าง… ตาเป็นมันแล้ว
.
.
.
‘ไอ้เจ้านี่มัน… สุดยอดทาสแต้มบุญชัดๆ ไม่รู้ทำไมบิดาถึงรู้สึกว่า ด้วยไอ้เจ้านี่ทาสแต้มบุญ 10,000 ล้านล้านคนของบิดา อาจจะทำสำเร็จเร็วกว่าที่คิด’
ไช่หยางเงยหน้าขึ้นมันรอรับคำตอบอย่างใจจรด พร้อมด้วยนัยน์ตาอันแรงกล้าของผู้มีศรัทธา
ที่ทำเอาไอ้มิจฉาชีพเห็นแล้วยังต้องแอบสั่นสะท้าน
ก่อนจะคิดในใจเล่นๆ
‘หากตอนนี้บิดาบอกมันไปกินอึ ไม่รู้ทำไมบิดารู้สึกว่าไอ้ฉิบหายนี่มันต้องทำแน่นอน’
.
.
.
และในไม่ช้าผู้คนนับล้านก็โห่ร้อง
มือยอดบุรุษกล่าวคำคำหนึ่ง
“ตกลง…”