Skip to main content

เฉียนฉีไม่เคยคิดว่าหนึ่งชั่วโมงจะนานขนาดนี้

ตัวเลขนับเวลาที่ราวกับภาพโฮโลแกรมตัวเลขขยับต่อเนื่อง หน่วยของมันคือวินาที

59.55

59.56

59.57

.
.
.

-[ติ้งดีใจด้วย คุณทำภารกิจสำเร็จ คุณได้กล่องสุ่มรางวัลหนึ่งใบ]-

-[เนื่องด้วยนี่คือภารกิจประจำวัน คุณสามารถทำซ้ำ]-

-[ภารกิจถูกยกระบบ]-

ในสำนึกของเฉียนฉี ราวกับว่าเขากำลังติดตั้งโปรแกรม หน้าจอกระพริบไปมา ข้อมูลหลายอย่างผ่านหน้าเขาต่อเนื่อง

และในที่สุดระบบก็ถูกติดตั้งสมบูรณ์ หน้าจอข้อมูลของตัวเขาปรากฏ

-[เฉียนฉี : เมล็ดพันธุ์ต้นสน หากแต่หน่อไม่สำเร็จใน 10 ปีจะตาย]-

-[อายุขัย : 314 วัน]-

-[ตบะบำเพ็ญ : 0 ]-

-[เคล็ดวิชา : XXX ]-

-[ความสามารถพิเศษ : อดทน]-

-[ธาตุ : ไม้]-

‘บัดซบบิดาไม่ใช่ทารกเกิดใหม่ในครรภ์มารดา แต่บิดาเป็นต้นไม้ ไม่สิยังเรียกว่าต้นไม้ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ แย่กว่าต้นไม้คือตอนนี้บิดาเกิดใหม่มาเป็นเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ ถุ้ย สวรรค์บัดซบ’

ตอนนี้หาเฉียนฉีมือ เขาคงเอามือก่ายหน้าผาก แต่มือสองข้างอาจจะยังน้อยเกินไป ใช้สองขาก่ายหน้าผากด้วยดีกว่า มีใครเกิดใหม่แล้วแย่กว่าเขาอีกไหม

ในความมืดมิดเฉียนฉีนิ่งงันนาน

เวลาค่อยๆ ผ่าน เขาชินกับความเงียบสงบแล้ว ตอนนี้ได้แต่ปลอบใจตัวเอง

อย่างน้อยเกิดใหม่เป็นเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ก็ยังดีกว่าก้อนหิน

ตรงหน้าเฉียนฉี หลังจ้องหน้าจอระบบอยู่นาน ก็มีหลายจุดของระบบที่ทำให้เฉียนฉีสนใจ

‘ข้อความของหน้าจอระบบ มีข้อมูลตบะบำเพ็ญ เคล็ดวิชาและความสามารถพิเศษ… สิ่งนี้ไม่ได้สื่อว่าข้าบำเพ็ญเพียรได้งั้นเหรอ ถึงแม้ตัวข้าจะเป็นต้นไม้ก็ตาม นอกจากนั้น ของรางวัล ใช้ของรางวัล’

เฉียนฉีพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเขามีขอรางวัลจากระบบด้วย หลังจากตกใจว่าตัวเองคือเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ เขาเกือบลืมว่าเขาได้ของรางวัล

ปุ่ม ปุ่มรับของรางวัลอยู่ไหน โชคดีหน้าจอระบบค่อนข้างเป็นระเบียบ กวาดสายตารอบเดียวก็เห็น

เฉียนฉีกระตุ้นปุ่มรับรางวัลทันที

-[ท่านได้รับตบะบ่มเพาะเทียบเท่าอยู่แดนเซียนชั้นฟ้าที่หนึ่งเป็นเวลา 1 เดือน]-

ทั่วร่าง… ไม่สิ เฉียนฉีควรพูดว่าทั่วเมล็ดพันธุ์ของตัวเอง อยู่ๆ ราวกับมีความอบอุ่นม้วนคดอยู่กลางแก่นเมล็ด มันหมุนเร็ว และทุกรอบที่มันหนุนเฉียนฉีสัมผัสถึงการพัฒนา

แกร๊กๆๆ ร่างของเฉียนฉีมีรอยแตก

หน่อเล็กๆ ของต้นไม้งอ

มันเสียดแทงไปที่ดิน

สูงขึ้น สูงขึ้น เฉียนฉีแผดคำนี้ต่อเนื่อง

และในไม่ช้า…

ราวกับเฉียนฉีมองเห็นโลกได้ 360 องศา สิ่งนี้พิเศษมาก

ตอนนี้เฉียนฉีรู้แล้วว่าทำไมเขาจึงรู้สึกหนาวตลอดเวลา

โลกรอบด้านเฉียนฉีมีแต่หิมะ เขาเติบโตในฤดูหนาว

ต้นไม้ไม่มีดวงตา แต่สัมผัสพิเศษ ซึ่งเฉียนฉีไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไร แต่มันทำให้เฉียนฉีรับรู้โลกรอบตัวได้อย่างสมบูรณ์ ปัญหามีเพียงเล็กน้อย ระยะการรับรู้ของเฉียนฉีไม่กว้างนัก มีเพียงราว 3 จั้งรอบตัว

‘การเกิดใหม่เป็นต้นไม้ มันเป็นแบบนี้สินะ’

-[ท่านซึมซับปราณฟ้าดินด้วยตัวเองครั้งแรก ท่านกระตุ้นภารกิจต่อเนื่องทั่วไป]-

-[อยู่นิ่งเฉยให้นานที่สุด ทุกๆ ความก้าวข้าม ท่านจะได้รับรางวัลใหญ่กว่าเดิม]-

เสียงดังกังวานของระบบดัง สิ่งนี้ทำให้เฉียนฉีมีความหวัง อย่างน้อยตอนนี้ก็ดีกว่าที่แล้วมามากมาย

ไม่ต้องอยู่ในโลกมืดมิด

และรู้แล้วว่าตัวเองตอนนี้คือสิ่งมีชีวิตอะไร

เฉียนฉีนึกถึงเทพตำนานต่างๆ ต้นไม้ปีศาจ เมื่อบำเพ็ญมากพอ พวกมันสามารถเป็นปีศาจ แม้ในวรรณกรรมมักเป็นปีศาจชั่วร้าย แต่พวกเขาก็สามารถมีร่างกายแบบมนุษย์และเดินเหินไปไหนมาไหนได้

เฉียนฉีเริ่มจินตนาการถึงเส้นทางบำเพ็ญของตัวเอง

ตอนนี้อย่างน้อยก็มีอะไรทำ

เขากดรับภารกิจ ‘อยู่นิ่งเฉยให้นานที่สุด’ ตรงหน้าปรากฏเวลานับไปด้านหน้าที่คุ้นเคยอีกครั้ง

1 ชั่วโมงแรกผ่านไป เฉียนฉีได้รับรางวัล ครั้งนี้เป็นตบะฟ้าดินชั้นฟ้าที่หนึ่งอีกครั้ง แต่จำนวนได้รับเพียง 7 วัน ไม่แย่ เฉียนฉีพอใจ

ต้นสนซึ่งเป็นร่างของเฉียนฉี โตอีกหนึ่งฉื่อ แม้มันจะค่อนข้างน้อย แต่สำหรับเฉียนฉี แค่นี้ก็โอเคมาก เพราะเวลาผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมงแต่เขาตัวสูงได้เท่ากับเวลาของมนุษย์ 3 หรือ 4 ปี น่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว

ระบบให้ความหวังกับตัวเขา

เฉียนฉีหวังว่าผ่านชั่วโมงที่สองหรือสามจะยังมีรางวัลอีก

แต่…

มีแต่ความเงียบงัน

โชคดีตอนนี้เฉียนฉีเริ่มเหงาน้อยลงมานิดหนึ่ง อย่างน้อยเขาก็มองเห็นหิมะและก้อนหินได้ วันนี้น่าตื่นต้นเกิดไป แม้สิ่งนี้จะเล็กน้อยเหลือเกินหากเขาเป็นมนุษย์

การเกิดเป็นต้นสน ทำให้ทุกสิ่งที่แสนธรรมดาสำหรับเฉียนฉีคือเรื่องใหญ่

ในชั่วโมงที่ห้า เฉียนฉีดีใจเขาได้รางวัลจากระบบอีกครั้ง

-[ติ้ง ท่านทำได้ดีมาก ไม่คิดว่าท่านจะอดทนอยู่เฉยๆ ได้ถึง 5 ชั่วโมง ความอดทนของท่านเหนือมนุษย์ ท่านได้รับชีพจรวิญญาณระดับต่ำ]-

-[ติ้ง ระบบตรวจพบว่าท่านไม่ใช่มนุษย์ ชีพจรวิญญาณระดับต่ำห้าธาตุ ถูกปรับปรุงให้เข้ากับสภาพของท่าน]-

เฉียนฉีรู้สึกว่าร่างกายตัวเองอุ่นร้อนขึ้น ทั่วร่างราวกับมีเส้นแหลมราวเข็มเสียบแทงไปทั่วร่าง

-[ติ้ง ท่านกลายพันธุ์ ท่านกลายเป็น ‘ต้นสนวิญญาณห้าธาตุ’ ที่ดูซับไอฟ้าดินด้วยตัวเองได้]-

-[เฉียนฉี : ต้นสนวิญญาณห้าธาตุ]-

-[อายุขัย : 314 วัน / 15,000 ปี]-

-[ตบะบำเพ็ญ : 1 ปี ]-

-[เคล็ดวิชา : XXX ]-

-[ความสามารถพิเศษ : อดทน]-

-[ธาตุ : เบญจธาตุระดับต่ำ]-

หากมีดวงตา ตอนนี้ดวงตาเฉียนฉีคงกระพริบรัวหลายครั้ง เขาดีใจ เส้นทางเซียนของเขาเริ่มต้นแล้ว

ดูอายุขัยตัวเองสิหนึ่งหมื่นห้าพันปี นี่มันไม่ต่างจากการเป็นอมตะ

ส่วนตบะบำเพ็ญ… เฉียนฉีพบว่าอยู่ดีๆ มันขยับมาเป็นหนึ่งปี สิ่งนี้แสดงว่า ‘ตบะบ่มเพาะเทียบเท่าอยู่แดนเซียนชั้นฟ้าที่หนึ่งเป็นเวลา 1 เดือน’ หนึ่งเดือนของที่นั่นน่าจะมีค่าราวๆ กับบ่มเพาะที่โลกนี้ธรรมดาหนึ่งปี

‘ไม่แย่ ไม่แย่นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี’

ตอนนี้พอคิดถึงเรื่องธาตุทั้งห้า เฉียนฉีใคร่รู้ เขาคิดว่าเขาอาจจะทำอะไรบางอย่างได้

แม้เขาจะไม่ใช่มนุษย์บำเพ็ญเซียน

เพียงแต่เมื่อเริ่มคิด เฉียนฉีก็ทดลองทันที และมันก็ทำให้…

‘ขยับได้ ขยับได้จริงๆ ข้ารองเพ่งจิตสำนึกไปที่ก้อนหินก้อนนั้น แม้จะยกมันลอยไม่ได้ แต่ข้าทำให้มันขยับได้ นี่คือพลังจิต’

เฉียนฉียังไม่เข้าใจความสามารถของตัวเอง

เขาคิดว่านี่คือพลังจิต แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เป็นเพราะเฉียนฉีในร่างต้นไม้เริ่มปราณฟ้าดิน

เมื่อห้าธาตุส่งเสริม เขาควบคุมธาตุทั้งห้าได้ในขอบเขตอำนาจของตัวเอง

สำหรับผู้บำเพ็ญสิ่งนี้เล็กจ๋อยมาก

แต่สำหรับเฉียนฉีนี่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่

โดยที่เฉียนฉีไม่รู้ตัว ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองขาดมากที่สุดในตอนนี้คือเคล็ดวิชาบ่มเพาะ

เวลาล่วงผ่าน

เมื่อครบ 10 ชั่วโมงเฉียนฉีได้รางวัลอีกครั้ง

ครั้งนี้ไม่ใช่รางวัลพิเศษอะไรเป็นตบะบ่มเพาะเจ็ดวันอีกครั้ง

เมื่อมาถึงชั่วโมงที่ 15 เฉียนฉีคาดหวังว่าจะได้รับรางวัล ในใจเขาได้แต่คิด ความหวังว่าการได้รับรางวัลจะไม่มีระยะทิ้งห่างมากเกินไป

ชั่วโมงที่ 15 เฉียนฉีได้ตบะบำเพ็ญ 7 วันอีกครั้ง

เมื่อชั่วโมงที่ 20 ยังได้อีก เฉียนฉีคิดว่าระบบคงให้รางวัลเขาทุกๆ 5 ชั่วโมง

เพียงแต่เมื่อเวลาครบ 1 วันหรือ 24 ชั่วโมง เฉียนฉีได้รับรางวัลอีกครั้ง ครั้งนี้เขาตื่นเต้นมาก

เพียงแต่หลังจากที่ร่างกายอยู่ราวกับมีแสงทิพอาบกายหายไป

เฉียนฉีรู้สึกราวกับใบหน้ามืดดำเพราะปัญหาหนึ่ง

เพราะของรางวัลที่เขาได้เมื่ออดทนนิ่งเฉยครบ 24 ชั่วโมงคือ

-[ติ้ง ท่านทำได้ดีมาก ท่านอดทนได้เหนือมนุษย์ทั่วไปส่วนใหญ่แล้ว ครบหนึ่งวันที่ท่านอยู่เฉยๆ ท่านได้รับพรสวรรค์ผู้ใช้กระบี่ระดับต่ำ]-

‘ข้าไม่มีแขนจับกระบี่…’