Skip to main content
มารสำราญรม

มารสำราญรม ตอน 147 : !!!ใคร

By 08/07/2022สิงหาคม 14th, 2022No Comments
“บัดซบเมื่อกี้นี้เจ้าวะอะไรนะ” โจวจี้ไหลตอนนี้มันกรีดร้องคล้ายได้สติจากความมึนเมาแล้ว มันกัดปากแน่น การเตรียมสตรีงามมากับมันย่อมมีเป้าประสงค์หากแต่ในไม่ช้าที่ด้านข้างมัน สตรีงามที่ดูแล้วแสนเย้ายวนนางหนึ่งก็พูดขึ้น…

“ท่านแม่ทัพเจ้าคะ เหตุใดต้องใจร้อนด้วยเจ้าคะ ท่านไม่ใช่พึงพูดกับพวกข้าหรอกรึว่าท่านหมออู๋นานอะไรนั่นนิยมชมชอบการเสพสมอันวิปลาส ตอนนั้นเสพสมนางโลมกลางงามแสดงอย่างไม่อายใคร เช่นนี้ท่านแม่ทัพคิดว่าอย่างไร หากเราส่ง 4 นางมีครรภ์ หรืออาจจะ 5 นางมีครรภ์ให้ท่านหมออู๋นานอะไรนั้นเสพสมพร้อมๆ กัน ท่านแม่ทัพท่านลองคิดสิเจ้าคะ… รสเสพสมประหลาดเช่นนี้ใช่หาโอกาสเสพสมได้ง่ายๆ นะเจ้าคะ คิกคิก หากเกิดถูกใจท่านหมออู๋นาน เกรงว่านี่คงเป็นความชอบใหญ่ ท่านแม่ทัพใหญ่คงหวังผลอะไรได้ไม่น้อย การจะเชิญท่านหมอไปอาณาจักรโจวคงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากแต่ถ้าใช้พวกนางไม่ได้ผล พวกเราก็แค่… คิกคิก”

ตอนนี้สองสตรีงามที่อยู่ซ้ายขวาโจวจี้ไหลก็เชยคางมันขึ้นแล้ว

“ก็ให้เป็นหน้าที่ของพวกเราสองเองเถอะนะเจ้าคะนายท่าน นายท่านก็รู้รสสวาทแห่งสตรีแดนทะเลทรายนั้นร้ายกาจเพียงไร”

โจวจี้ไหลได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มอย่างเพ้อฝันแล้ว มองจ้องสองสตรีน้ำลายไหล คล้ายอยากจะลิ้มชิมทั้งสองเหลือเกิน

.

.

.

– [10 วันล่วงผ่านบริเวณชายแดนเขตตัวเมือง] –

ซุนนานตอนนี้นั่งอยู่บนหอสูงเขตว่าการของเมือง เฝ้ามองผู้คนใช้ชีวิต นอกจากนั้นก็มองเหล่าผู้มีศักดิ์ ซึ่งจะเรียกว่าข้าราชการก็ไม่ถูก เพราะในแผ่นดินนี้ยังไม่มีระบบเช่นนี้ ไม่ว่าจะข้าราชการหรือขุนนาง มีแต่แบ่งการปกครองเป็นเจ้าดินแดน ซึ่งให้ความสำคัญกับนักรบ

ดังนั้นเจ้าเมืองจึงเป็นแม่ทัพผู้หนึ่ง ซุนนานตอนนี้มองจ้องการบังคับใช้กฎหมายและข้อปฏิบัติที่มันตั้งขึ้น ต้องให้พูดกล่าว หลายๆ อย่างนั้นยังเต็มไปด้วยช่องโหว่ แม้ซุนนานอยากจะเร่งแก้ปัญหานี้ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ

เช่นการว่าความ ยุคสมัยนี้คำสัตย์แม้มี หากแต่ก็หาได้ยาก ผู้คนต่อสู้แย่งชิง ทุกวันมีคนตาย บางครั้งข้าวหนึ่งกำมือก็อาจจะต้องแลกด้วยชีวิต

นอกจากนั้นกลุ่มคนเถื่อนที่มีอำนาจก็มีมาก

แน่ละส่วนหนึ่งเพราะงานการของผู้คนนั้นยังไม่ได้แจกแจงกันอย่างเป็นระบบ ทำมากก็ไม่ใช่จะได้มาก นอกจากนั้นระบบทาสก็มีใช้สอยกันอยู่ทั่วไป บางครั้งด้วยวิถีชีวิตแบบนี้ก็ทำให้คนเห็นคุณค่าของชีวิตผู้อื่นต่ำนัก ซุนนานก็ได้แต่ทอดถอนใจ หากแต่ถามว่าทำไมซุนนานไม่ช่วยเหลือ ไม่แบ่งข้าว แบ่งน้ำให้พวกมัน

ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะด้วยการตระหนักรู้ห้วงอารมณ์ มองลึกลงไปซุนนานคล้ายเห็นจิตใจอันมืดมิดของใครหลายๆ คน และเพราะแบบนั้นตัวมันจึงคล้ายกังวลในสันดานดิบที่เต็มไปด้วยการฆ่าและแย่งชิง มันจึงคิดอ่านว่าสมควรให้พวกมันหรือไม่

และเพราะแบบนั้นซุนนานจึงได้ทดสอบ ทดสอบอย่างใจเย็น มันลองให้โอกาสและปล่อยปละเชื่อคำโป้ปดไอ้พวกนี้ดู เมื่อมันทำหน้าที่เป็นนายไต่สวน

หากแต่สุดท้ายกับพบว่าไม่ทันพ้นวันดี ไอ้พวกทรามพวกนี้ก็เริ่มกระทำผิดอีก เมื่อพบเจอกับคนใจหยาบมากซุนนานก็รับรู้ ไม่อาจจะเลี้ยงดูพวกมันด้วยวิธีสามัญ จำต้องใช้อักษรวิญญาณควบคุม มองมันเป็นแรงงานมีประโยชน์

หากแต่แม้ซุนนานใช้วิธีนำพวกทรามมาเกณฑ์เป็นแรงงาน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็นับว่าพอมีช่องทางให้ไอ้พวกนี้ได้ลืมตาอ้าปากและกลับตัวอยู่

นั่นคือการมอบเงินและวิชาชีพให้พวกมัน หากแต่ซุนนานก็ไม่รู้ว่าไอ้พวกใจทรามมันจะรู้รึเปล่าว่าตัวซุนนานได้เมตตาพวกมันแล้ว

นั่นเพราะหลังไอ้พวกนี้รู้ว่าตัวเองถูกจับได้บ้างว่าปล้น ฆ่า ข่มขืนแล้วถูกจับเป็นนักโทษใช้แรงงาน แม้ภายนอกใบหน้ามันจะเซื่องซึม หากแต่ภายในใจพวกมันมีแต่ความคิดหมายสังหารซึ่งซุนนาน เรื่องแบบนี้ซุนนานพบเจอแทบทุกวัน หากแต่ซุนนานก็ทำเช่นนี้ทุกวันในช่วงนี้ มันหมายจะเป็นแบบอย่างในการบังคับใช้กฎหมายให้เหล่าพ่อเมืองแม่ทัพทั้งหลายได้ดูเป็นแบบอย่าง

และด้วยการทำเช่นนี้ ภายในเมืองชื่อเสียงของมันจึงละบือไกลยิ่ง

ตอนนี้จางต๋าเดินก้าวมาหามันพร้อมคนติดตามหลายสิบ

ซุนนานที่นั่งบนหอสูงมองพวกมันด้วยกิริยาแห่งผู้สูงส่ง ด้านหลังมันตอนนี้มีเหล่าสตรีงามช่วยกันฝนหมึกเพื่อลงอักษร ตลอดวันซุนนานไม่เคยปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ ทุกวันหากไม่ทำสิ่งหนึ่ง ก็ต้องไปทำอีกสิ่งหนึ่ง คล้ายเป็นผู้งานรัดตัวตลอดเวลา ทั้งวางข้อกฎหมาย เอาความรู้เก่ามาสร้างบ้านเมือง สิ่งเหล่านี้ทำให้ซุนนานไม่มีเวลา

“เป็นเช่นไรบ้าง การติดต่อกับพวก ‘นางงู’ ด้วยสัญลักษณ์” ซุนนานตอนนี้เรียกกลุ่มคนแห่งเหล่าสตรีแซ่หู หูชิ่งยวี่และหูลี่จิ้งว่านางงู ด้วยเพราะพวกนางก็เรียกกลุ่มตัวเองเช่นนี้ มันคล้ายๆ เป็นกลุ่มกองที่ทำงานลับๆ โดยไม่เผยชื่อแซ่ แน่นอนซุนนานย่อมรู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือใคร หากแต่กับเหล่าบริวารของมัน มันก็คล้ายจะไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่าง จึงเรียกกลุ่มสตรีแห่งผู้แซ่หูนี้ว่านางงูตามพวกนาง

“นายท่านทุกอย่างเรียบร้อยดีกว่าที่คาดมากเลยขอรับ ตอนนี้ด้วยการช่วยเหลือของพวกนางงู พวกเราส่งคนแฝงตัวเข้าเมืองของไอ้พวกสามตระกูลใหญ่ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้นข้าน้อยก็ทำตามที่ท่านบอก พอแฝงคนเข้าไปแล้ว ข้าน้อยก็ให้คนไปสืบข้อมูลตามที่กลุ่มนางงูส่งข่าวมาให้เรา ข้าน้อยพบว่า ในกลุ่มข่าวปลีกย่อยที่อาจจะไม่สำคัญนัก และสำคัญปานกลาง ตรงกับที่กลุ่มนางงูพูดทุกอย่าง หากแต่ในข่าวกลุ่มสำคัญยิ่ง และสำคัญยิ่งยวด คนที่แฝงตัวของเราย่อมไม่อาจจะสืบทราบได้ หากแต่ด้วยข่าวสารที่ได้มา เรื่องเวรยามและการวางกำลัง ก็ทำให้เรามีเปรียบแล้วหากจะบุกตีเมืองพวกมัน นอกจากนั้นจุดอ่อนต่างๆ ของเวรยามพวกเราก็ได้มาอย่างละเอียดแล้วด้วย นายท่านต้องการตีเมืองแห่งมันตอนนี้เลยหรือไม่ขอรับ”

ตอนนี้ซุนนานได้แต่ส่ายหน้า

“ศึกสงครามใหญ่พึงผ่านไป เหล่าผู้สามัญยังยากลำบาก หากเราทำศึกอีกไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ แม้พวกเราจะมีชัย หากแต่ใจคนภายในย่อมคิดกระด้างกระด้างกระเดื่องต่อพวกเรามาก นอกจากนี้เวลานี้ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน สิ่งสำคัญคือข้อมูลข่าวสาร เมื่อข้อมูลข่าวสารที่เราได้มาชัดเจนมากพอ นอกจากนั้นการเก็บเกี่ยวและเสบียงพลั้งพร้อม ตอนนั้นบุกตีก็ยังไม่สาย ตอนนี้ผู้ที่ควรใจร้อนไม่ใช่พวกเราหากแต่เป็น 3 ตระกูลใหญ่ เราจะรับตั้งมั่น 1 ปี จากนั้นจึงจะบุกตีพวกมันให้แตกในคราวเดียว เวลานี้สิ่งที่ต้องทำคือแฝงคนของเราเข้าไปแทรกซึมในพวกมันให้ได้มากๆ มากเท่าไรก็ยิ่งดี จำไว้ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ด้วยการช่วยของนางงู แท้จริงการตีแต่พวกมันย่อมทำได้ไม่ยาก แต่ข้าไม่อยากจะสูญเสียชีวิตผู้คนเพิ่มอีกตอนนี้ก็เท่านั้น”

“นายท่านช่างเมตตา”

ซุนนานได้ยินคำคำนี้ก็ได้แต่ยกมุมปากยิ้มเบาๆ

ไม่ช้าจางต๋าก็คล้ายเห็นภาพวาดบางอย่าง มันเห็นแปลกตาดีจึงพูดขึ้น

“นายท่านขอรับภาพวาดพวกนี้คืออะไรรึ”

“นี่คือเขื่อน ส่วนนี่ปืนใหญ่ รถเคลื่อนด้วยศิลาธาตุพลัง นอกจากนั้นไอ้นั่นคือภาพวาดการวางระบบสายพานลำเรียงในการจัดสร้างผลิตยุทธ์ภันฑ์ และขอใช้อุปโภคต่างๆ ที่ควรจะมีผู้ช่วยกันทำงานอย่างเป็นระบบ”

จางต๋าตอนนี้งงงันไปหมด คำพูดแต่ละอย่างของนายท่านช่างทำมันสับซน แต่ละคำคล้ายไม่เคยได้ฟังไม่เคยได้ยิน หากแต่มีสิ่งหนึ่งที่มันตื่นตาที่สุดคือคำว่าปืนใหญ่

นั่นเพราะในมือมันมีปืนศิลาธาตุพลังอยู่ หากแต่ไอ้เจ้านี้กับดูใหญ่และหนักกว่ามาก หากกระบอกเล็กๆ ยังทรงอานุภาพขนาดนี้แล้วไอ้สิ่งที่เรียกว่าปืนใหญ่เล่าจะขนาดไหน

ซุนนานยกมุมปากยิ้ม

ก่อนจะสอบถามจางต๋าถึงการวางกำลังคน ในที่สุดผ่านมาหลายวันหลายอย่างๆ ก็คืบหน้ามาก แนวเขาตอนนี้มีการสร้างป้อมสังเกตการและแนวปืนซุ่มยิง ให้เหล่ามือปืนซุ่มยิงฝ่ายตรงข้ามผ่านแนวเขาได้โดยสะดวก นอกจากนั้นด้วยการนำทาสจำนวนมากไปช่วยกันถางป่า ตลอดแนวราว 1 ลี้นั้น ต้นไม้ต่างถูกตัดโค่นจนหมด ทำให้ต่อจากนี้ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีทางซ่อนตัวผ่านแนวเขานี้ได้โดยเหล่านักรบหน่วยซุ่มยิงไม่เห็น เมื่อเป็นเช่นนี้ซุนนานก็พอใจแล้ว สิ่งที่เหนื่อยมาหลายวันสำเร็จด้วยดี และการมีป้อมสังเกตการนี้ การบุกดินแดนของสามตระกูลใหญ่ก็คล้ายเป็นไปไม่ได้อีกต่อแล้ว

แนวชายแดนติดทะเลของผู้แซ่เกาตอนนี้คล้ายปลอดภัยแล้ว ซุนนานได้เวลากลับเมืองหลวงเสียที ตอนนี้ยังมีเรื่องใหญ่ให้มันจัดการอีกมาก

.

.

.

ซุนนานตอนนี้มอบปืนจำนวนหนึ่งให้แม่ทัพที่เป็นเจ้าดินแดนบริเวณชายแดนนี้ พร้อมวางกำลังคนแห่งผู้แซ่เกาไว้จำนวนหนึ่ง ให้ทั้งสองช่วยกันดูแลแนวป้องกันนี้ โดยในฝ่ายเจ้าดินแดนนั้น ซุนนานได้บังคับพวกมันทำการลงอักษรวิญญาณหมดสิ้น ถือว่าปืนหายคนตาย

นอกจากนั้นยังไม่ใช่การสังหารเพียงหนึ่ง หากแต่ถือกฏรวม ที่ทำเช่นนี้เพื่อป้องกันการกลั่นแล้วขโมยปืนแล้วใส่ร้ายคนอื่น

ดังนั้นในหน่วยรบกองหนึ่งๆ ปืน 10 กระบอกร่วมกันดูแล ปืนหายหนึ่งกระบอกสังหารคนหมดทั้งหน่วยไม่มียกเว้น นอกจากนั้นหน่วยที่ตั้งรอบบริเวณต้องโดนภาคทัณฑ์พร้อมตรวจสอบด้วย และต้องโดยทรมานด้วย 10 แส้ฟาดเป็นอย่างน้อย

ฟังดูเรื่องนี้คล้ายโหดร้าย หากแต่ยุกสมัยเช่นนี้ซุนนานก็ไม่กล้าปราณีผู้ใด แม้แต่เจ้าเมือง โดยซุนนานกำชับกับมันเป็นมั่น ปืนที่มอบให้ หากหายยกหน่วยและไม่มีเหตุอันควร ต่อให้เป็นแม่ทัพเจ้าดินแดน มันก็จะปลิดชีวิต

แม่ทัพเมืองชายแดนได้ยินเช่นนั้นก็สั่นสะท้านแล้ว ซุนนานคล้ายสัมผัสความสั่นกลัวจากมันได้อย่างแรงกล้า

แน่นอนว่าเมื่อให้โทษรุนแรง ความชอบก็ต้องล้ำค่ายิ่ง

ซุนนานมอบขวดโอสถเสริมปราณ 1 ลายเส้นให้มันร่วมร้อยขวด และมีโอสถ 2 ลายเส้นอีกหนึ่งเป็นรางวัล โดยหากมันทำหน้าที่สำเร็จดี ซุนนานยังให้สัญญากับมันอีกด้วยว่าจะช่วยเหลือให้บรรลุสู่ระดับกระแสพลัง

เจ้าดินแดนได้ยินซุนนานพูดเช่นนี้ก็คล้ายพร้อมถวายชีวิตแล้ว ของบางอย่างในโลกใบนี้มีค่ากว่าชีวิตและเงินทองของคนสามัญ แน่นอนซุนนานมีมัน

.

.

.

เสียงคลื่นซัด ลมโกรก พร้อมวันเวลาค่อยๆ ล้วงผ่านไปอย่างช้าๆ

ยามค่ำคืมเมื่อถึงจุดพัก แน่นอนซุนนานย่อมจัดขบวนพักแรม สตรีงามย่อมพร้อมใจให้มันเสพสม ปิงปิง เป่าเป่า ไป่ไป่

สามแม่ลูกยิ่งนับวันก็ยิ่งทำงานบริการนายท่านได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ต้องพูดกล่าว ไม่ต้องคิดเพียงแค่ปล่อยกายซุนนานก็ได้ความอภิรมย์ สามแม่ลูกนี้นับว่ารู้จุดของซุนนานแล้ว ว่าจะนวดครึงนายท่านอย่างไรให้รู้สึกสบายตัว

แน่นอนการเสพสมสำหรับซุนนานคล้ายเป็นสิ่งสามัญแล้ว ส่วนสตรีงามก็มีมากมายจนเกินนับ ทำให้ในทุกวันนี้ ซุนนานก็หาใช่บุรุษหิวสตรี ยิ่งด้วยเคล็ดวิชามหารัญจวนตอนนี้ 3 แก่นเสมือนยิ่งนับวันก็ยิ่งมั่นคง การเสพสมสตรีนั้นหากไม่จำเป็นซุนนานก็ไม่กระทำ มีเพียงการผ่อนคล้ายด้วยการบีบนวดและหลับนอนก็เท่านั้น

ก็ช่วยไม่ได้โลกใบนี้ยังขาดหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไป หากมันอยากเปลี่ยนโลกใบนี้ เปลี่ยนวิถีชีวิตและจิตใจผู้คน ก็มีแต่ต้องเร่งบีบคั้นและเร่งรัดตัวเอง ให้พยายามยามทำสิ่งต่างๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย โลกที่พ่อแม่ลูกอยู่กันอย่างมีความสุข ผู้คนมีศีลธรรมจะได้เกิดขึ้น

.

.

.

“ท่านพี่เจ้าคะ” เป่าเป่านางเรียกซุนนานอย่างคุ้นชิน นี่เป็นเรื่องธรรมดา แม้ซุนนานกับนางมีฐานะนายบ่าว หากแต่ก่อนซุนนานก็มอบฐานะและดูแลเป่าเป่าและไป่ไป่ราวกับน้องสาวของมันอยู่แล้ว

“อะไรรึ” ซุนนานมองหญิงสาวที่นับวันก็ยิ่งเบ่งบานอย่างงามล้ำ

เป่าเป่านางยิ้มพร้อมจูบสัมผัสป้องลำของท่านพี่ของนาง

“ชอบไหมเจ้าคะ”

ซุนนานได้แต่ลูบศีรษะสตรีของนางเบาๆ ไป๋ไป๋ที่อยู่ด้านข้างก็ช่วยโลมเลียด้วย ช่างเป็นบรรยากาศของบุรุษผู้มีอำนาจและสตรีโดยแท้

ปิงปิงตอนนี้มองดูสองบุตรธิดาของตัวเอง นางส่ายศีรษะเบาๆ นายท่านช่างตามใจจนเคยตัว ถึงขนาดสองบุตรธิดากล้าพูดเล่นยั่วนายท่านเช่นนี้

ปิงปิงร่างกายนางเปลือยเปล่า นางเอาก้อนหินอังไฟนวดประคบนายท่านของนางอย่างรู้งาน ทำเต้าอกกระเพื่อมไหวเป็นจังหวะ

เต้าอกใหญ่ของนางช่างทำให้บุรุษไม่จ้องมองไม่ได้เลย ซุนนานเอื้อมมือคลำคลึงมันเบาๆ ราวเด็กน้อยที่อยากรู้เหลือเกินว่าไยเต้าอกนี้จึงได้ทั้งใหญ่และงามน่าจับแบบนี้

ใบหน้าปิงปิงนางเสียวกระสันนักในใจปรารถนาให้นายท่านไม่หยุดเพียงแค่คลำคลึง

.

.

.

หากแต่ในห้วงความผ่อนคลายนี้ ซุนนานคล้ายรับรู้ถึงใครบางคนที่นอกกระโจม…

มันยิ้ม…

มีดผลไม้ที่อยู่ไม่ไกลมือซุนนาน มันจับไม่ช้าก็ปาไปอย่างแม่นยำ

“!!!อาา”

สตรีร้องดังปรากฏ

“!!!ใคร” ปิงปิง กรีดร้อง เสียงของนางทำผู้คนภายนอกตื่นตกใจแล้ว

อ่านบทต่อไป →