เซี่ยซีหานกดอ่านคำอธิบายเกี่ยวกับการบ่มเพาะทักษะแห่งดินของตัวเองเพิ่มเติม
นัยน์ตาของมันแสดงความตกตะลึงเกี่ยวกับความละเอียดของคำอธิบาย ต่อมาก็กลายเป็นความสับสน
– [“เหล่ามหาปราชญ์ผู้ทรงปัญญาเคยพูดเอาไว้ แท้จริงการเรียนรู้นั้นไม่มีวันจบสิ้น เส้นทางแห่งผู้วิเศษและการบ่มเพาะโอน่าก็เช่นกัน หลักการบ่มเพาะโอน่าพื้นฐานที่สุดที่เจ้าควรรู้ โอน่าคือพลังแห่งธรรมชาติ มันไม่แบ่งแยกว่าผู้ครอบครองมันนั้นจะดีหรือชั่ว แม้แต่ปีศาจที่ชั่วร้ายที่สุดก็สามารถมีโอน่าที่แข็งแกร่งจำนวนมหาศาลได้ นั่นเพราะมันตระหนักรู้และเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติและกฎของสรรพสิ่งได้มากกว่า”] –
– [“นี่เป็นการบอกว่าเจ้าต้องใช้แต่สัญชาตญาณดิบ ในการตระหนักรู้เส้นทางแห่งพลังของโอน่าใช่หรือไม่ ในการบ่มเพาะโอน่า คำตอบคือไม่ใช่ เพียงแต่เจ้าต้องสร้างการตระหนักรู้และเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติให้ได้ก็เท่านั้น ซึ่งสัตว์ร้ายและปีศาจมักทำสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่ามนุษย์ สัญชาตญาณของมันนำพาพลังธรรมชาติได้มากกว่ามนุษย์ที่คิดมาก จิตใจมนุษย์มักวกวนและสับสน”] –
– [“มหาปราชญ์บางท่านฝึกฝนโอน่าธาตุดินด้วยการนั่งบนโขดหิน มือจับดิน ใช้นิ้วแตะสัมผัสคลึงดินธาตุไปเรื่อยๆ จนจิตหลอมรวมเป็นหนึ่งกับธาตุดินในมือ และเข้าใจโครงสร้างของดินอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็ใช้พลังโอน่าสร้างธาตุดินออกมาจากความว่างเปล่า เริ่มจากเศษดินก้อนเล็กๆ จนในที่สุดแม้แต่ขุนเขามหาปราชญ์ผู้วิเศษก็สร้างได้ด้วยโอน่าของตัวเอง”] –
– [“นั่นเป็นวิธีที่ดี แต่ก็พิรี้พิไร ดังนั้น ข้าในฐานะระบบจะแนะนำวิธีอันยิ่งใหญ่และได้ผลดียิ่งกว่าให้กับเจ้า สำหรับการฝึกโอน่าธาตุดิน”] –
– [“จงขุดหลุมลึกพอดีตัวเจ้านั่งได้ ช่วงคอพ้นจากผิวดิน กลบฝังตัวเอง กำหนดจิตว่าตัวเจ้าคือดิน ดินคือตัวเจ้า ด้วยความแนบชิดกับธาตุดินอันยิ่งยวด การตระหนักรู้ธาตุดินของเจ้าจะเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าคนทั่วไป หากวันหนึ่งเจ้าหายใจด้วยผิวหนังได้ ข้าขอแนะนำให้เจ้าขุดหลุมให้ลึกขึ้นและฝั่งตัวเองจนมิดหัว อยู่ในนั้นตระหนักรู้ถึงความเป็นดิน และเจ้าจะเป็นสหายแห่งดิน รู้จักดินอย่างสมบูรณ์”] –
อ่านถึงตรงนี้ ใบหน้าเซี่ยซีหานเบะเบี้ยวเล็กน้อย มันรู้สึกแปลกๆ กับวิธีการฝึกฝน ตอนแรกมันคิดว่าจะเหมือนหนังกำลังภายในที่ต้องรำมวยหรือต้องนั่งนิ่งเดินลมปราณ ไม่คิดเลยว่าวิธีฝึกฝนของโลกใบนี้จะเป็นแบบนี้
โดยที่เซี่ยซีหานไม่รู้ วิธีฝึกที่มันคิดไว้นั้นมีอยู่จริง และก็ดันเป็นวิธีฝึกปกติของโลกใบนี้ แต่มันเป็นการจำลองการหายใจ ใช้พลังโอน่าด้วยวิธีของเหล่าสัตว์ร้ายและปีศาจ ที่มีความเข้าใจเรื่องพลังธรรมชาติหรือโอน่าโดยธรรมชาติที่ดีมากกว่ามนุษย์มาตั้งแต่กำเนิด
การฝึกบ่มเพราะโอน่าธาตุบริสุทธิ์นั้น ทำได้ยากและหาได้ยากเกินไป จนเรียกได้ว่าแม้แต่ 1 ใน 1,000,000 ของผู้วิเศษนั้น จะมีสักหนึ่งหรือสองคนที่บ่มเพาะธาตุบริสุทธิ์เป็นพื้นฐาน แล้วได้เป็นผู้วิเศษนั้นก็เกือบแทบจะหาไม่เจอ
คนที่บ่มเพาะโอน่าด้วยธาตุบริสุทธิ์ ต่างเป็นตัวตนในตำนานแห่งโลกผู้วิเศษทั้งนั้น
หน้าเบะเบี้ยวอยู่ครู่ เซี่ยซีหานก็อ่านต่อ แม้จะประหลาดใจ แต่ด้วยความรักชีวิตและคิดถึงน้องสาว มันจำต้องหาเส้นทางที่จะมีชีวิตและกลับสู่โลกเดิมของมัน
– [“กฎการฝึกโอน่าที่ดีที่สุดนั้นถูกเรียกว่า ‘สี่มหาวัฏจักรอันยิ่งใหญ่’ คือหนึ่ง.การตระหนักรู้พลังด้วยสภาวะจิตที่เป็นสมาธิ สอง.เมื่อเกิดการตระหนักรู้เจ้าจงใช้การตระหนักรู้นั้นเปลี่ยนโอน่าเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ธาตุบ่มเพราะแรกของเจ้าคือธาตุดิน เช่นนั้นเจ้าจงสร้างดินออกมา สร้างออกมาให้ได้มากที่สุดจนแม้โอน่าเจ้าจะหมดตัวก็ตาม ช่วงเวลาที่โอน่าหมดคือสภาพบีบบังคับ ร่างกายเจ้าจะอ่อนล้า แต่โอน่าในร่างของเจ้าจะเกิดการพัฒนาอย่างยิ่งยวด ดวงวิญญาณของเจ้าจะสร้างประจุโอน่า จุดกักเก็บ หรือที่เรียกว่า ‘อาณาจักร’ ด้วยการฝึกวิธีนี้เมื่อถึงวันที่เจ้ามีอาณาจักร อาณาจักรโอน่าในกายเจ้าจะใหญ่โตยิ่งยวดกว่าใคร”] –
– [“สาม.สภาวะฟื้นฟู หรือร่างกายสร้างโอน่าฟื้นคืน ในช่วงสภาวะนี้จงจำไว้ เจ้าต้องรอให้โอน่ากลับมาอยู่ในสภาวะสมบูรณ์ที่สุดก่อน จึงค่อยทำการใช้โอน่าสร้างธาตุหรือสิ่งที่มีอยู่จริง ในสภาวะโอน่าฟื้นฟูนั้น เจ้าควรใช้เวลาไปกับการตระหนักรู้ธาตุด้วยสภาวะจิตแทน มันจะช่วยในการฟื้นฟูโอน่าในตัวเจ้าได้เร็วขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้เจ้าเข้าใจเกี่ยวกับธาตุบริสุทธิ์ที่เจ้าฝึกฝนได้ลึกซึ้งกว่าเดิม จงอยากคิดว่าการตระหนักรู้เล็กน้อยจะทำให้เจ้าเข้าใจความหมายของธาตุบริสุทธิ์อย่างแท้จริง มันมีอำนาจและทำอะไรได้มากกว่าที่เด็กโง่อย่างเจ้าคิดมากนัก”] –
– [“สี่.คิดถึงการพลิกแพลงในการใช้พลังโอน่าของตัวเองในรูปแบบต่างๆ มหาปราชญ์ผู้ใช้ธาตุดินบางท่านสามารถสร้างปราสาทได้เพียงจิตนึก บางท่านประยุกต์มันใช้เป็นอุกกาบาตลงมาถล่มเมืองได้ บางท่านสร้างแผ่นดินไหว แน่นอน…นี่คือขั้นสูง และตัวตนเหล่านั้นมีโอน่าเมื่อเทียบกับคนธรรมดาเรียกว่าแทบจะไร้ขีดจำกัน ส่วนเจ้า ลองใช้มันสร้างเป็นรูปสลักที่ซับซ้อนดูสิ มันจะช่วยให้เจ้าควบคุมธาตุดินได้ดีกว่าที่คิด การสร้างแต่รูปทรงพื้นฐาน นอกจากไม่ส่งเสริมจินตนาการ แต่ยังทำให้เจ้าดูโง่ นอกจากนั้นด้วยความมักง่ายนี้ ทักษะการควบคุมเจ้าจะห่วยมาก จำไว้จินตนาการในบางครั้งสำคัญกว่าปริมาณของโอน่า”] –
“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าหลังอ่านจบ ข้ากำลังถูกดูถูก” คิ้วของเซี่ยซีหานย่นเข้าหากัน
แต่ช่างเถอะ สิ่งสำคัญตอนนี้ไม่ใช่เรื่องการดูถูกสักหน่อย แต่มันคือการต้องรีบฝึกฝน!!!
หากฝึกฝนสำเร็จ เป้าหมายของการใช้ชีวิตดุจตัวมอดในถังข้าวสารของเซี่ยซีหานสักวันคงจะมีวันเป็นจริง แค่คิดว่าได้นอนเฉยๆ ทั้งวันและไม่ต้องทำอะไร เซี่ยซีหานก็มีความสุขแล้ว แม้หนทางสายนี้จะได้มายากลำบากเหลือเกินก็ตาม
…
5 ชั่วโมงผ่านไป
“ซีหาน… ซีหานเจ้าอยู่ไหน” เสียงเจียตัวดังในความมืดมิด ตอนนี้ค่ำมากแล้ว เจียตัวไม่เห็นเซี่ยซีหานกลับบ้านมันจึงเป็นห่วง
เซี่ยซีหานตื่นจากภวังค์ ร่างของมันจมเข้าไปในดิน ช่วงคอและหัวมีหิมะชั้นบางๆ ทับอยู่
เสียงเจียตัวทำให้เซี่ยซีหานตื่นจากภวังค์ หลังตื่นเสียงระบบก็ดังตึ้ง ตึ้ง ตึ้งอย่างต่อเนื่อง
– [ทักษะแห่งดิน ระดับ 1 : 14.4% + 12.5% ความเข้าใจทักษะแห่งเดินกลายเป็น 26.9 ก่อนการบรรลุทักษะระดับ 2] –
– [โอน่า : 5 หน่วย + 0.6 หน่วย = 5.6 หน่วย] –
– [องค์ปัญญา : 150 หน่วย + 0.5 หน่วย = 150.5 หน่วย] –
– [ศักยภาพร่างกาย : 3.6 หน่วย + 0.2 หน่วย = 3.8 หน่วย] –
– [อายุขัย: 16 ปี 150 วัน + 2 วัน = 16 ปี 152 วัน] –
เซี่ยซีหานยิ้ม นี่มันเกิดการพัฒนาอย่างแท้จริง
แต่เพราะด้วยความดีใจ มันทำให้เซี่ยซีหานลืมไปเลยว่า ตอนนี้มีเสียงตะโกนของลุงหนวด ที่เต็มไปด้วยความห่วงใยยังดังก้องกังวานอยู่
“การฝึกฝนทำให้ข้ามีพัฒนาการในทุกด้าน มันได้ผล วันหนึ่งถ้าข้าฝึกฝนไปเรื่อยๆ มันจะทำให้ข้าแข็งแกร่ง และอายุยืนเป็นร้อยปีรึเปล่านะ” เซี่ยซีหานยิ้มกรุ้มกริ่มหลังมองหน้าจอระบบ
“ซีหานเจ้าอยู่นี่เอง” เสียงของเจียตัวเหนื่อยอ่อนเล็กน้อย เนินเขาที่บ้านของเจียตัวตั้งอยู่มันไม่เล็กเลย ทำให้เจียตัวต้องวิ่งหาจนเหนื่อย มันเกือบคิดว่าเซี่ยซีหานที่เป็นเด็กอาจจะบังเอิญตกหน้าผา หรือถูกสัตว์ปีศาจประเภทบินทำร้าย
แต่เมื่อเห็นเซี่ยซีหานที่ตอนนี้มีแค่คอที่พ้นดิน ตอนแรกเจียตัวตกใจนึกว่าเด็กน้อยของมันถูกตัดคอไปเสียแล้ว แต่พอเห็นใบหน้ายิ้มและเสียงหัวเราะคิกๆ เบาๆ มันจึงรู้ว่าเซี่ยซีหานมีชีวิตอยู่
“เด็กดีเจ้ามาทำอะไรตรงนี้ และทำไมตัวของเจ้าถึงจมไปในดินได้”
เซี่ยซีหานยิ้มเก่อเขิน