“เจ้าแน่ใจนะ…ว่าเจ้าจะเลือกอันนี้นะเจ้าหนู เจ้าไม่ได้ยินสิ่งที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้งั้นเหรอ”
สายตาของซีหานมุ่งมั่นอย่างประหลาด
มือมันชี้ไปที่รูนบริสุทธิ์ธาตุดิน ที่เคอซวนแนะนำอย่างเสียไม่ได้ มันมีสิ่งนี้หลายอันแต่ก็ขายไม่ออก จะมอบให้ใครก็เสียดาย เป็นที่รู้กันรูนธรรมชาติระดับต่ำๆ นั้นหาง่าย แต่ในระดับสูงนั้นแตกต่างกัน มันมีประโยชน์อย่างอื่นแฝงอยู่ จึงทำให้มีราคาแพง แต่ในรูนธาตุบริสุทธิ์ระดับต่ำๆ นั้น ราคาถูกเกินบรรยาย
แต่เซี่ยซีหานเขากลับเลือกมัน
ทำไมกัน!!!
นั่นเพราะก่อนนี้เคอซวนแนะนำข้อดีของรูนธาตุบริสุทธิ์เอาไว้ นั่นคือ ธาตุดินช่วยเรื่องอายุขัยและร่างกายที่แข็งแกร่งได้มาก ว่ากันว่าธาตุดินคือจุดกำเนิดของชีวิต เวลานี้ซีหานใกล้ตายเต็มที อายุขัยคือสิ่งที่จำเป็นที่สุด นอกจากนั้น ต้นทุนในการบ่มเพาะธาตุบริสุทธิ์นี้ยังถูกมาก มันไม่มีความต้องการพิเศษ แต่สิ่งสุดท้ายที่ทำให้ซีหานเลือกได้ในทันทีคือรูนธรรมชาติ ตัวมันไม่ต้องถูกทรมานจากลักษณะพิเศษจากจิตวิญญาณของเจ้าของรูนเดิม
นี่คือสิ่งที่ดีและน่ายอมรับที่สุด สำหรับเซี่ยซีหานที่แสนจะขี้ขลาด
ส่วนจุดอ่อนเรื่องบ่มเพราะช้า หรือไม่อาจจะบรรลุเป็นผู้วิเศษได้นั้น ตอนนี้ซีหานช่างมันไปก่อน ตอนนี้ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เลือกรูนอะไรซักอย่างไปศึกษา
เพราะหากเซี่ยซีหานเลือกรูนอื่นที่มีราคาแพง เซี่ยซีหานจำต้องทำตามเงื่อนไข ซึ่งไม่ทรมานอย่างสาหัสก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก
ตัวเซี่ยซีหานผู้ข้ามมิติจนกรอบขนาดจะไม่มีข้าวแดกแบบนี้ เซี่ยซีหานจะไปหาเงินจากที่ไหน ตอนนี้ได้ของฟรีมาอย่างไรก็ต้องเอาไว้ก่อน ฝึกได้ไม่ได้ก็ช่างมัน
ถ้าหากฝึกผิดพลาดสิ่งที่ต้องทำคืออะไร ทำลายรูนเก่าในร่างแล้วฝึกใหม่หรือหารูนเพิ่ม ที่มีธาตุเดียวกันที่สอดคล้อง แน่นอนว่าเซี่ยซีหานจะเลือกอย่างหลัง
ส่วนเจียตัวนั้น นอกจากเคยมีรูนธรรมชาติแล้ว ตัวของเจียตัวก็เคยหารูนสัตว์อสูรที่สอดคล้องมาบ่มเพราะแล้ว แต่ปัญหาของเจียตัวคือสติปัญญาที่ต่ำเตี้ยเกินไป สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ ติดอยู่ที่ ‘ย่างก้าวแรก’ ของผู้วิเศษฝึกหัดไปตลอดชีวิต
แต่เส้นทางนี้ก็ไม่เหงานัก 9 ใน 10 ของคนที่ต้องการเป็นผู้วิเศษ ก็ติดอยู่ที่ตรงนี้เหมือนกัน ไม่เช่นนั้น โลกใบนี้ก็มีผู้วิเศษมากมายเต็มไปหมดแล้ว ไม่มีคนธรรมดาให้เห็น
เจียตัวไม่เหงาจนเกินไป และก็ไม่ได้คิดว่าตัวมันจะต้องเป็นผู้วิเศษอีกแล้ว เจียตัวทำใจได้นานแล้ว เสียงเหล็กและไฟสุ่มในห้องหลอมยุทธภัณฑ์ช่างทำให้เจียตัวมีความสุข
“ขอรับท่านปรมาจารย์ผู้วิเศษที่ยิ่งใหญ่ ที่ข้าเลือกเช่นนี้ ส่วนหนึ่งย่อมเกิดจากการไตร่ตรองคำชี้แนะที่แสนวิเศษ จากท่านปรมาจารย์ผู้วิเศษ ที่ทำให้ข้าเกิดการรู้แจ้ง ซีหานไม่ได้มองว่าตัวเองมีสติปัญญาเช่นศิษย์ของเหล่ามหาปราชญ์ แต่จากข้อดีข้อเสียที่ท่านปรมาจารย์ผู้วิเศษชี้แนะ ทำให้ข้าน้อยผู้เยาว์วัยเกิดการตระหนักรู้ ซีหานนั้นยากจน ไม่มีเงินบูลนี่แม้แต่เหรียญเดียว และด้วยความยากจนนี้ ข้าน้อยจำต้องเลือกเส้นทางที่อาจหาญเช่นการบ่มเพาะโอน่าในเส้นทางธาตุบริสุทธิ์ แม้จะเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก แต่ก็เหมาะสมกับผู้ยากจนเช่นข้าน้อยขอรับ แม้วันหน้าไม่อาจจะบรรลุเป็นผู้วิเศษที่แท้จริงได้ แต่การได้พบท่านมหาปรมาจารย์ผู้วิเศษเช่นท่านเคอซวน ก็นับเป็นวาสนาของข้าน้อยผู้เยาว์แล้ว” ซีหานพูดไปร่างกายก็โค้งต่ำ แสดงออกอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอย่างถึงที่สุด
เคอซวนรู้สึกราวกับตัวลอย มันมองจ้องสายตาของซีหานไม่กะพริบ ไม่รู้ทำไมมันรู้สึกว่าสายตาและสีหน้าของซีหานแมร่งโคตรจริงใจ ทำขนแขนสองข้างมันลุกตั้ง มือของเคอซวนสั่นระริก นึกถึงความหลังของตัวเองเมื่อเยาว์วัย ต่อสู้บนเส้นทางผู้วิเศษบากบั่นกว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ง่ายเลย
อาจจะเพราะรู้สึกว่าเซี่ยซีหานมีบางส่วนคล้ายตัวเอง เคอซวนเริ่มรู้สึกประทับใจเซี่ยซีหานอย่างล้ำลึก
แต่เคอซวนหารู้ไม่ เซี่ยซีหานไม่เหมือนมันเลยแม้แต่น้อย มันไม่ได้มีความมุ่งมั่น หรืออาจหาญในเส้นทางผู้วิเศษนี้เลย แต่มันเลือกสิ่งนี้เพราะขี้ขลาด!!!
มันก็แค่ความกลัวตายและกลัวเจ็บ ไม่อยากตายอนาถ จึงได้ใช้สาลิกาลิ้นทองของตัวเองเลียเท้าคนอื่นไปวันๆ
แต่เคอซวนเข้าใจผิด ดันมองว่าซีหานมันมีความมุ่งมั่น รู้จักพูดและสติปัญญาเกินเด็ก
มือของเคอซวนล้วงเข้าไปในเสื้ออย่างไม่อาจจะห้ามใจ
รูนระดับสามปรากฏ นี่คือรูนธาตุบริสุทธิ์หายากประเภทหนึ่ง
“นี่นับเป็นรูนธาตุบริสุทธิ์อย่างหนึ่ง มันคือธาตุไม้ แม้ไม่อยู่ในแม่ธาตุพื้นฐานทั้งห้า แต่ก็นับเป็นธาตุบริสุทธิ์เช่นกัน ธาตุไม้มันเกิดจากห้าธาตุสรรค์สร้าง ด้วยธาตุไม้นี้ผู้บ่มเพราะมันทำให้มีอายุขัยมากขึ้น ข้าได้มันมาเมื่อหลายปีแล้ว และข้าเคยตั้งใจใช้มัน แต่มันไม่เหมาะสมกับธาตุพื้นฐานของข้าที่เป็นเหล็กทองและไฟ เจ้าเอามันไปเถอะเด็กดี”
ซีหานอื้ออึงเล็กน้อย
นี่สินะพลังแห่งการชะเลียและการเป็นเด็ก
!!!มันได้ผล
ไม่เพียงเท่านั้นเคอซวนยังมอบหนังสือให้ซีหานอีกหลายเล่ม นี่คือหนังสือพื้นฐานเส้นทางสู้ผู้วิเศษ เคอซวนถามซีหานว่าเจ้าอ่านออกไหม
ตอนแรกเซี่ยซีหานก็กังวล นี่มันมาต่างโลก ตัวมันจะอ่านภาษาของโลกใบนี้ออกหรือไม่ แต่เมื่อลองจ้องมองดีๆ มันกลับพบว่ามันอ่านออกทั้งหมด
นัยน์ตาเซี่ยซีหานสว่างจ้า
เคอซวนพอใจ มันคิดว่าวันนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร แม้จะเสียรูนไปสองรูน แต่มอบให้กับหินอัญมณีที่ในอนาคตจะส่องประกายเจิดจรัส คิดแบบนี้มันก็มีความสุขดี
“ไปกันได้แล้ว” เสียงชายหน้าชราแก่ก่อนวัยเคอซวนพูดดัง ก่อนทำมือไล่เซี่ยซีหานและเจียตัวออกไป คล้ายตัวเองยุ่งหรือมีบางอย่างต้องรีบทำ
ในขณะที่ถูกไล่ออกมาด้วยความที่เซี่ยซีหานพบว่า ตัวเองอ่านอักษรทั้งหมดในหนังสือได้ พอตั้งใจอ่านดีๆ แบบนี้ตัวมันจึงลองอ่านอักษรประหลาดต่างๆ รอบบ้านที่ถือกำเนิดจากต้นไม้หลังนี้ ลองความสามารถพิเศษของตัวเอง
เซี่ยซีหานพบว่าตัวเองอ่านออกทั้งหมด และนั่นทำให้ตัวเซี่ยซีหานมองเห็นอักษรที่เขียนบนแผ่นหนัง ที่ขึงไว้กลางบ้านมันดูโดดเด่นเป็นพิเศษ สารหนังมันคล้ายวงเวทอะไรสักอย่าง มีหลายจุดที่เซี่ยซีหานอ่านออก และพบว่ามันเป็นอักษรมีความหมาย ไม่ใช่ภาพวาดเพียงอย่างเดียว และมันก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
– [การฆ่าอมนุษย์ผู้ไม่ตาย , พิธีบูชาเลือด , อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการฆ่า… ฯลฯ] –
นี่คือหัวข้อที่เขียนเป็นอักษรประหลาดบนแผ่นหนังที่ขึงไว้กลางบ้าน โดยที่เซี่ยซีหานไม่รู้เลยว่า อักษรที่ตัวเองอ่านนั้นคือ อักษรโบราณที่แม้แต่เคอซวนก็อ่านไม่ออก
ทำไมเคอซวนมีมัน?
ซีหานไม่สนใจสิ่งนี้มากนัก แต่พอรับรู้ว่าโลกนี้มีสัตว์ประหลาดที่เหนือกว่าสัตว์ประหลาดที่ตัวเองไม่รู้จัก ตัวมันก็แอบหวาดกลัวขึ้นไปอีก
ร่างเซี่ยซี่หานสั่นระริกเบาๆ
‘ไม่ได้การ…โลกนี้มันน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว นอกจากมีสัตว์ปีศาจ มันยังมีพวกอมนุษย์ที่ฆ่าไม่ตายด้วยงั้นเหรอ เวรละแล้วแบบนี้ บิดาจะใช้ชีวิตสงบสงบดุจตัวมอดในถังข้าวสารได้ยังไง ไม่ได้การบิดาต้องหาวิธีเอาตัวรอดจากโลกใบนี้ให้ได้ อย่างน้อยๆ ก็ขอแก่ตายอย่างสงบตอนอายุแปดสิบ สิ่งสำคัญคือตัวเราต้องไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องน่ากลัวทั้งหลาย แค่สัตว์ปีศาจเห็นแล้วก็แทบกลัวจนจะฉี่ราดอยู่แล้ว นี่ไม่ต้องพูดถึงอมนุษย์ แค่ภาพวาดจากสารหนัง เห็นแล้วและลองจินตนาการดู… ก็น่ากลัวสุดๆ ไปเลย’
ใต้อักษรโบราณ เป็นภาพมนุษย์ที่ถูกตัดคอ แต่แผลที่คอที่ถูกตัดนั้น กลับมีก้องเนื้อที่บูดเบี้ยวงอกออกมา พร้อมดวงตาและปากจำนวนมาก มันน่าขยะแขยงและดูมืดหม่น ถ้าเป็นคนกลัวรู เซี่ยซีหานมั่นใจ คนคนนั้นจะเป็นลมได้แค่มองภาพวาดที่น่าสยดสยองนี้