“สมกับเป็นวิชาเหนือตำนานการจะฝึกวิชานี้ในโลกแห่งนี้แถบจะเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ”
‘ถ้ามันง่ายดายวิชานี้ก็คงมีผู้ใช้ทั่วหมู่ดาราไปแล้ว วิชาย่างก้าวมายาเทวะเป็นวิชาที่ไม่ควรมีมนุษย์ผู้ใดฝึกได้ ทุกย่างก้าวของผู้ใช้วิชานี้สามารถทิ้งร่างมายาที่มิจิตสำนึกเอาไว้นอกจากนั้นยังบิดเบือนมิติ หากเจ้าแข็งแกร่งพอทุกก้าวของเจ้าพอที่จะเหยียบมิติให้แตกร้าวได้ง่ายๆ แม้มันจะถือว่าเป็นวิชาประเภทเคลื่อนที่หากแต่มันกับช่วยให้เจ้าสังหารเหล่าผู้มีเศษเสี้ยวแห่งความเป็นเทพได้ไม่ยากเลย แม้แต่ครึ่งเทพหากเจ้าใช้ท่าย่างก้าวมายาเทวะเหยียบพวกมันลงไปจิตวิญญาณของพวกมันก็แทบจะแตกร้าวในทันที’
“ไขสันหลังคชสารจักรวาล แก่นธาตุสัตว์เทวะระดับจักรพรรดิที่เป็นธาตุสายฟ้า สายเลือดมังกรสวรรค์ แต่ละอย่างไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะหาจากโลกนี้ได้เลย โดยเฉพาะสายเลือดมังกรสวรรค์แม้แต่ในโลกแห่งเกมมังกรสวรรค์ก็เป็นสิ่งที่หายากมากๆ ผู้ที่ครอบครองสายเลือดมังกรสวรรค์มีเพียง 2 ตระกูลเทวะเท่านั้น นอกจากนั้นไขสันหลังคชสารจักรวาลอย่าว่าแต่ไขสันหลังของมันเลยแม้แต่ขนของมันข้าก็ไม่คิดว่าจะไปเอามันได้ในตอนนี้ ระดับต่ำสุดของมันเมื่อแรกเกิดก็เป็นสัตว์เทวะระดับเสี้ยวเทวะแล้ว แต่อันที่ยากที่สุดกับเป็นแก่นธาตุสัตว์เทวะระดับจักรพรรดิกว่าจะไปถึงตัวมันข้ามีกี่ชีวิตก็ไม่พอ”
‘หรือเจ้าจะยอมแพ้ละ’ มารน้อยกล่าวอย่างเย้ยหยัน
“ย่อมมิใช่ สิ่งที่ข้าชอบที่สุดคือการท้าทายโชคชะตา หลายปีมานี้ได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายข้านับว่าพอใจมากแล้ว หากแต่ชะตาของข้าต่อจากนี้เป็นเช่นไรข้ามิได้หาใส่ใจไม่ ตอนแรกข้าคิดว่าจะไปที่ดินแดนแห่งนั้นหลังจากนี้ซัก 10 ปี แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าอาจจะมิได้มีเวลามากอย่างที่ข้าคิดและตอนนี้ข้าก็มีวิชาระดับสูงมากมาย ถ้าข้าไปที่นั้นในตอนนี้ แม้จะไม่อาจจะล่าสังหารเหล่าสัตว์เทวะส่วนใหญ่ได้ หากแต่ข้าอดทนได้มากพอก็มีสัตวเทวะไม่น้อยเหมือนกันที่ข้าสามารถล่าสังหารได้”
‘ตัวเจ้าในตอนนี้ระดับนักรบขั้น 9 เนี่ยนะ’
“หากเจ้ารู้จักพวกมันมากพอ มีข้อมูลพวกมันมากพอก็มิมีสิ่งใดต้องกังวล นอกจากนั้นการไปที่ดินแดนแห่งนั้นจะทำให้ข้าก้าวสู่ระดับเศษเสี้ยวแห่งเทพได้อย่างแน่นอน ที่นั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่โลกแห่งนี้ไม่มี และมันจะช่วยข้าเติมเต็มวรยุทธ์ขั้นกลางและขั้นสูงที่ข้ามิอาจจะฝึกได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่วิชาระดับตำนานหากเป็นที่นั้นข้าก็จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วได้”
‘มิใช่ว่าเจ้าจะไปเป็นศิษย์สำนักบรรจบฟ้าอยู่รึ’
“นั้นมันก็เพียงแค่เรื่องชั่วคร่าวเจ้ามารน้อย ข้าแค่อยากจะหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ บ้างมิได้รึ”
‘บุรุษมักตายอนาถเพราะอิสตรีดูท่าชะตาเจ้าก็มิต่างกัน’
“มิใช่ว่าจ้าวหมื่นมารก็ไม่ต่างกันรึ”
‘…’ เจ้ามารน้อยนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องพูดคุย ‘แล้วเหล่าวิชาระดับตำนานเล่าเจ้าคิดเห็นอย่างไร’
“ข้าคงไม่อาจจะฝึกทั้งหมดได้ แม้มีอยู่หลายวิชาที่ไม่ได้มีความต้องการอะไรสูงหากแต่การตีความก็ยากจะเข้าใจ หากข้ามิได้จิตวิญญาณแห่งจ้าวหมื่นมารช่วยเหลือ ข้าคิดว่าคงไม่ต่ำกว่า 30 ปี ข้าจึงจะฝึกสำเร็จทั้งหมด”
‘หึ ถ้าเป็นคนอื่นอย่าว่าแต่ 30 ปี เลยแม้จะ 100 ปี 1000 ปี ก็มิแน่ว่าจะสำเร็จแม้ 10 วิชา’
“ใน 1 ปีนี้ข้าคิดว่าคงจะสำเร็จ 40 – 50 วิชา 2 ปี น่าจะเกิน 70 วิชา ส่วนที่เหลือนั้นคงต้องหลังจากไปที่…” เฉียวฟงทำหน้าจริงจังก่อนกล่าว “ดินแดนซากเทวะ”
———- ณ สำนักบรรจบฟ้าที่พักส่วนตัวของสวีอันฉี ———-
นิก็ 1 สัปดาห์แล้วที่นางได้รับปากยอดหญิงงามว่าจะช่วยดูแลเด็กน้อยเฉียวฟง หากแต่ใน 7 วันนี้นางมิเคยไม่พบเด็กน้อยเลยแม้แต่ครั้งเดี่ยว ตอนนี้นางเริ่มมีใต้ตาหมองคล้ำ ในห้องพักส่วนตัวที่มีนางอยู่คนเดี่ยวเท่านั่น หากใครได้เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยินเสียงหัวเราะ “คิคิ” ของนางออกมาเป็นระยะๆ นั้นก็เพราะว่านางในตอนนี้นั้นกำลังติดวรรณกรรมของกวีเอกลึกลับแห่งโลกล้าซู่เย่อย่างงอมแงม แม้แต่การฝึกสอนวิชาในสำนักนางก็ไม่ได้เข้าไปสอนเลย…
———- ณ สำนักบรรจบฟ้าที่อยู่ของยอดหญิงงาม ———-
‘ไม่รู้ว่าการฝึกของเด็กน้อยจะเป็นอย่างไรบ้างนะ’ ในใจลึกๆ ของนางรู้สึกเป็นกังวลอย่างน่าประหลาดใจ
หากแต่นางมิได้รู้เลยว่าศิษย์พี่ที่นางฝากฝั่งต่อให้ช่วยดูแลเด็กน้อยนั้นกำลังเป็นผู้คลั่งวรรณกรรมจนลืมวันลืมคืนอยู่