ไม่ช้าหนิงหวงก็บ้าคลั่งพูดกล่าวบางสิ่งออกมาอย่างไม่คิด สิ่งนี้แอบทำซุนนานตกตะลึงไม่น้อย
“ชะตาแห่งพระนางช่างน่าอเนจอนาถ ใครเล่าจะเชื่อว่าชีวิตนี้จะมีเรื่องวิปลาสเช่นนี้ บุตรชายไม่เอาไหนของพระนาง องค์ราชันย์แห่งผู้แซ่หูในปัจจุบัน กับร่วมมือกับเหล่าบรรพชนตระกูล 4 จ้าวเกาะ ร่วมกันวางยาพร้อมสลักอักษรบัญชาและพิฆาตกับนาง 4 ผู้ชราผู้ถูกนับถือว่าเป็นยอดหมอโอสถแห่งแผ่นดินและบุตรของนาง พวกมันร่วมกันเสพสมขืนใจนาง โดยเฉพาะไอ้บุตรวิปลาสนั่น มันช่างฮะฮาฮา มันช่างได้ใจข้าจริงๆ ไม่คิดนึกว่าเรื่องราวเช่นนี้จะเกิดขึ้นที่อาณาจักรแห่งผู้แซ่หูที่เชื่อว่าถือธรรมเนียมมิต่างกับผู้แซ่โจว หากแต่ในความเป็นจริงกับต่ำช้ามิต่างกับไอ้พวกชาวทะเลทรายแซ่จู ดื่มด่ำสุขสันต์ไปกับรสราคะแห่งผู้ร่วมสายโลหิน โดยเฉพาะไอ้ราชันย์วิปลาสหูมู่ ว่ากันว่ามันลุ่มหลงมารดาตัวเองอย่างถึงที่สุด และเพราะมัน 4 ผู้ชราบรรพชนจ้าวเกาะแห่งตระกูลหูจึงมีโอกาสทำกับนางเช่นนี้ได้ พวกแซ่หูมันช่าง ฮะฮาฮา”
“นายหญิงหูชิ่งยวี่ ตอนนี้ข้าใคร่รู้นักว่าแท้จริงแล้ว รัชทายาทสามีของท่านนั้นแท้จริงแล้วใช้ลูกของพระมเหสีจริงๆ หรือไม่ หรือว่าที่จริงแล้วจะหาใช่ แต่เป็นบุตรที่เกิดจากอดีตราชินีหูเย่หรง”
หนิงหวงกล่าวจบตรงนี้มันก็บ้าคลั่งแล้ว ลงมือลุกไล่หูชิ่งยวี่ทันที โดยทีอีกสี่คนที่ติดตามหนิงหวงมาจะทำการใช้สายเชือกฟาดหวดหมายดึงรั้งร่างของหูชิ่งยวี่พยายามจับนางอย่างไม่ให้ชอกช้ำมากที่สุด
หากเป็นการปะทะทั่วไปคงไม่พิลี้พิไลมากเช่นนี้ หากแต่พอเป็นสตรีงาม ความมีค่าของนางก็หาใช่การเด็ดหัวเอาชีวิต หากแต่เป็นรสแห่งการได้เสพสมนาง เช่นนั้นก็ไม่มีบุรุษใดกล้าลงมือหนักแล้ว เช่นนี้จึงดูเสียเวลาอยู่สักหน่อย
นอกจากนั้นผู้ติดตามแห่งหนิงหวงก็หาใช่เป็นพวกปรารถนาเงินทอง เพราะด้วยระดับฝึกปราณระดับก่อปราณเช่นนี้ แผ่นดินนี้ก็นับว่าพวกมันมีเงินทองใช่สอยไม่สิ้น ไม่ว่าจะเป็นข้าคนหรือนายตัวเอง
หากแต่ที่ร่วมมือกับหนิงหวงนี้ก็มีแค่เรื่องเดียว มีปรารถนาร่วมกัน
ไม่ช้าหนึ่งในพวกมันก็พูดกล่าว
“นายหญิงขอรับ ข้าติดตามท่านมานานปี โปรดมอบวาสนาให้ข้าได้เชยชมท่านเสียสักครั้งเป็นวาสนาเถอะขอรับ 10 ปีแล้วนะขอรับ ที่ข้าดูแลท่านไม่ห่างกาย ท่านไม่รู้หลอกว่าตัวข้านั้นเก็บกดมาเพียงไหน” มันพูดนี้พูดพลางตวัดเชือกดีดสะบัดหมายพันขาของหูชิ่งยวี่
หากแต่ทักษะของหูชิ่งยวี่หาธรรมดาไม่ นางตีลังกาวาดวงราวจันทรา ท่วงท่าอ่อนช้อยงดงามนัก ท่าร่างแห่งนางพลิ้วไหวยิ่ง หลบเชื้อกเร็วได้ทั้งหมด ไม่สัมผัสกายแม้แต่น้อย
ซุนนานมองดูนางก็มีแต่ความชื่นชม ต้องให้พูดกล่าว ในชีวิตนี้ของซุนนานมีโอกาสได้ชมการต่อสู้เป็นตายในผู้ฝึกฝนเชิงยุทธ์ระดับสูงน้อยเต็มที
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตัวมันเป็นผู้ข้ามมิติ เรื่องบางอย่างวิธีคิดแตกต่างกับคนในโลกนี้ ที่ไม่เน้นกระบวนท่า หากแต่เน้นยุทธ์วิถีและอาวุธรุนแรงประหัตประหารกัน จะให้มาฝึกปราณใช้อาวุธต่อสู้ชกต่อย ปะดาบ ปะกระบี่ ในยุคมันหามีไม่
การศึกสงครามชี้ขาดกันด้วยอาวุธทรงอานุภาพ
หากแต่ตอนนี้พอได้ดูการต่อสู้เอาตัวรอด ซุนนานก็แอบชื่นชมหูชิ่งยวี่ไม่น้อยที่นางทำตัวอ่อน พลิกกายหลบการโจมตีได้เสมอ ทั้งๆ ที่นางดูเสียเปรียบยิ่ง
หากแต่ในไม่ช้า
“หูชิ่งยวี่เจ้าไม่รักลูกตัวเองรึ”
ชิง เสียงกระบี่ดัง มันตวัดโดนปลายตุ้มเหล็กที่มัดไว้กับเชือก
ไม่ช้านางก็เหยียบลงบนโขดหินก้อนหนึ่ง มือสั่นร่างสั่น มองไปที่บุตรธิดาของตัวเอง นัยน์ตาแฝงอารมณ์แห่งความห่วงใยนัก
หนิงหวงจับคอบุตรธิดาของนางแน่นขึ้น
“อย่าขัดขืนไปให้ไร้ประโยชน์เลย วันนี้ข้าพาสหายแซ่โจวมาด้วย หากเจ้ายอมให้เข้าสลักอักษรวิญญาณโดยดีในร่างพวกเจ้าแม่ลูก และค่ำคืนนี้ยอมเป็นเมียรักของข้าทั้งห้าคน แบกรับน้ำบุรุษกันคนละสามสี่ สิบน้ำ พร้อมไม่ปากโป้ง ชีวิตพวกเจ้าแม่ลูกก็จะปลอดภัย”
หูชิ่งยวี่น้ำตาหลินไหน กระบี่วิจิตรของนางหล่นลงพื้นปากพูดกล่าวได้เพียง “สารเลว…” อย่างสั่นเครือ
ไม่ช้าห้าบุรุษก็หัวเราะเยาะ ไม่ช้า ก็พูดกล่าววาจาเปลื้องผ้าเสีย
หูชิ่งยวี่คล้ายไม่มีตัวเลือก นางเหม่อมองจันทราที่กำลังค่อยๆ ลอยเด่นขึ้นเรื่อยๆ ร่างแห่งนางคล้ายสั่นสะท้าน ทนต่อบางสิ่งบางอย่างไม่ไหว สติแห่งนางค่อยๆ จางลง
แต่นางพยายามตั้งหมั่นเอาไว้ นางไม่ช้านางก็เปลื้องผ้า เรือนกายที่วิจิตรของนางค่อยๆ แสดงอย่างช้า เต้างาม กรีบแคมแดนสตรีก็เรียบเนียน ถูกดูแลจัดแต่งทรงมาอย่างดี มองเห็นสัดส่วนลึกของเครื่องเพศชัดนักหากแสงจ้า
หนิงหวงจดจ้องนาง ก่อนพูดกล่าวกับเหล่าสหายแบ่งบั่นสตรีร่วมชำเรา โดยเงื่อนไขที่ตัวหนิงหวงตั้งเอาไว้คือ หูชิ่งยวี่คือสตรีที่มันปรารถนายิ่ง มันต้องการเป็นคนแรกและเสพสมนางอย่างพอใจ จากนั้นจึงพร้อมแบ่งบั่น
ส่วนหูลี่จิ้งบุตรแห่งนาง แม้นางจะงดงามไม่แพ้กัน และหนิงหวงก็ปรารถนาจะเสพสมกับนางเช่นกัน
หากแต่องค์แห่งความเป็นชายบุรุษผู้หนึ่งมีเพียงหนึ่งแท่ง หนึ่งอัน หาได้มีมากกว่านั้นไม่ และตัวมันก็รู้ดี หากมิยอมแบ่งบั่นกับผู้อื่นการทำงานร่วมกันย่อมยากลำบากและเพราะแบบนั้น มันจึงบอกให้เหล่าผู้ร่วมก่อการแบ่งกันเสพสมหูลี่จิ้ง โดยมอบให้ผู้แซ่โจวที่ชำนาญศาสตร์อักษรวิญญาณเป็นผู้เปิดประเดิม นับว่าให้เกียรติมันแล้ว
แนะนอนสำหรับบุรุษส่วนใหญ่รสเสียวกระสันครั้งแรกนับว่าสำคัญยิ่ง แม้สตรีที่ผ่านการมีสามี หากแต่ถ้าได้เป็นมือ 2 ก็ย่อมดีกว่ามือ 3 4 เรื่องแบบนี้อย่างไรบุรุษไม่น้อยก็ถือ
หากแต่จะว่าไม่ถือก็ได้เช่นกัน หากไม่ได้คิดสิ่งใดกับนางนอกจากความหื่นกระสันเสียว หวังดุ้นเนื้อจะได้อยู่ในแดนอุ่นในกายสตรีงาม
นอกจากนั้นด้วยการมีผู้แซ่โจวลงอักษร และทำให้พวกมัน 5 คนสามารถบีบบังคับนางสองแม่ลูกได้ในภายหลัง เมื่อเป็นเช่นนี้ เสพสมก่อนเสพสมหลังคงไม่ต่างกัน วันเวลาดีๆ ยังมีอีกเยอะ
และเพราะแบบนั้น ผู้ร่วมก่อการแต่ละคนจึงพร้อมอดใจรอคอยกันมานานปี
หากแต่ในระหว่างที่หนิงหวง กำลังจะเดินก้าวไปแหวกขาสตรีแห่งหูชิ่งยวี่ ปรารถนารับชมล่องสวาทของนางในค่ำคืนแสงจันทร์ ปรารถนาจะดูว่ามันงดงามเพียงไหน
ส่วน 4 สหายทรามที่ร่วมก่อการ พวกมันได้เริ่มร่วมกันเปลื้องผ้าหูลี่จิ้งที่ตอนนี้ไร้สติ นอนร่างแดงก่ำสั่นเทา กำของบางอย่างในมือแน่น
หากแต่ในขณะนั้นเอง…
พวกมันทั้งหมดตกตะลึง เพราะเสียงบางอย่างที่ดังกัมปนาทยิ่ง
!!!ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!ปัง
เสียงกระสุนปืนของซุนนานดังห้านัดติดต่อกัน แทบจะไม่เว้นจังหวะ เข้าศีรษะ 3 คน ถากเข้าไหล่หนึ่ง เข้าหลังบริเวณปอดอีกหนึ่ง
ซุนนานเดินก้าวบางเบาไม่ไยดี ดีดเศษปลอกกระสุนออก จากนั้นจับยัดกระสุนเข้ารังเพลิงสบายๆ ไม่รีบร้อน แม้เมื่อครู่เพราะเร่งรีบหมายจะอาศัยจังหวะอันดีและเบ็ดเสร็จ หลังจากเล็งไปที่ศีรษะ 3 คน ด้วยเสียงปืนที่ดังต่อเนื่อง
และประสาทสัมผัสของคนยุคสมัยนี้ที่ไวยิ่ง ทำให้กระสุนนัดที่ 4 และ 5 ซุนนานจึงไม่กล้าเล็งไปที่จุดตายที่ศีรษะและก็เป็นจริงดังคาด สำแหน่งกระสุนที่ซุนนานเล็งนั้นเคลื่อนจากต่ำแห่งเป้าหมาย ราวหนึ่งสองคืบกันทั้งสองคน ทั้งๆ ที่มันเล็งยิงที่กลางกาย
สิ่งนี้แสดงถึงความยอดเยี่ยมของผู้ฝึกฝนปราณของโลกใบนี้
!!!หนิงหวงที่พลิกกายเกลือกกลิ้งกลับหลัง มันจดจ้องซุนนานอย่างเจ็บปวดและมีแรงอาฆาตสุดหยั่ง ก่อนจะมองไปที่ไหล่ของตนเองที่แดงฉานชุ่มโลหิต เจ็บปวดยิ่ง แผลนี้ลึกจนทำกระดูกแข็งของมันแตกได้ช่างน่าตะลึง
ส่วนสหายของมันอีกคนตอนนี้เหนื่อยหอบ เพราะกระสุนเข้าปอด มันหายใจบางเบาเรียกหนิงหวงว่าช่วยด้วย ช่วยด้วย
หนิงหวงที่โดนกระสุนที่ไหล่นับว่าห่างจากจุดตายมากนัก
ทำให้มันมีสติและคิดการรอบคอบได้ มันใช้ผ้ามัดห้ามเลือกพร้อมพูดกล่าว
“เจ้าคือคนของผู้แซ่เกา และไอ้สิ่งที่เจ้าใช้คือไอ้สิ่งที่เรียกว่าปืนศิลาธาตุพลังสินะ”
“ใช่”
“จะเป็นอะไรหรือไม่หากข้าอยากจะขอทราบนามสูงส่งของท่าน วันนี้อาจจะเป็นวันดีที่ข้าและท่านได้ร่วมหาผลประโยชน์ร่วมกัน…” ไม่ช้าหนิงหวงก็เหร่สายตาเชื้อเชิญซุนนานไปทางสตรีงามที่ราวกับนางวรรณคดีเช่นหูชิ่งยวี่ นางร่างแดง หากแต่มีสติอยู่บ้างพอได้ยินทุกสิ่งอย่าง นางคล้ายเอียงอายเอามือปิดกาย ปิดเต้า ก่อนสองขานวลจะแนบชิดปิดเก็บเครื่องเพศแห่งตนให้พ้นสายตาบุรุษ
!!!ปัง เสียงปืนของซุนนานดังอีกครั้ง ชายผู้หายใจเหนื่อยหอบตอนนี้สิ้นแล้ว
หนิงหวงเห็นเช่นนี้ก็ได้แต่หายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ มองไอ้เจ้านั้นที่เป็นถึงผู้ฝึกปราณระดับก่อปราณช่างตายอย่างเรียบง่ายไร้การขัดขืนจริงๆ
ส่วนตัวหนิงหวงเองก็ตกตะลึงกับความรวดเร็ว
ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์และมีระดับปราณขึ้นสูงเป็นยอดคนของโลกหล้า มันพบว่าในค่ำคืนแสงน้อยเช่นนี้ นอกจากประกายไฟที่ออกจากไอ้สิ่งที่เรียกว่าปืนศิลาธาตุพลังแล้ว สิ่งที่มันมองเห็นคล้ายจะเป็นลูกเหล็กดำที่รวดเร็วยิ่ง มันเร็วจนตัวมันแทบมอบไม่ทัน ในสภาพค่ำคืนเช่นนี้
ต้องเพ็งพินิจอย่างดีจริงๆ เท่านั้นจึงจะเห็นได้
หากแต่พอเวลานี้เป็นยามค่ำ มิใช่ยามเช้าแสงมากที่เห็นโลกชัดเจน
หนิงหวงมันคิด หากไอ้บุรุษผู้นี้พ้นลูกเหล็กไฟนั้นมาทางมันสักสี่ห้า หรือ สิบลูกเหล็กไฟ ตัวมันก็ไม่มั่นใจเลยว่าจะหลบได้หมด ตอนซี้หนิงหวงคิดอ่านแล้วว่า หากหลบได้ไม่หมดแต่ก็จะพยายามไม่ให้โดยจุดสำคัญ
นอกจากนั้นหนิงหวงก็คล้ายเห็นช่องโหว่ของไอ้เจ้าของสิ่งนี้
มันคือจำนวนการยิง
ครั้งแรกหนิงหวงมันได้ยินเสียงระเบิดแห่งอาวุธพ่นไฟนี้ 5 ครั้ง หลังจากนั้นก็เงียบหายไป มันเห็นไอ้บุรุษผู้นี้เดินมา พร้อมทำทีท่าประหลาด หนิงหวงคิดนี่อาจจะคล้ายการบรรจุศรเข้ารังของหน้าไม้ อาวุธใดๆ ย่อมมีวิธีใช้ ไอ้อาวุธนี้ก็ต้องบรรจุลูกเหล็กไฟเช่นกัน
เมื่อครู่มันใช้ไปอีกหนึ่ง หากมันเสมือนครั้งที่แล้ว แสดงว่ามันพ่นลูกไฟเหล็กได้อีก 4 ครั้ง
หนิงหวงทำใจรับมือกับกรณีเลวร้ายที่สุดแล้ว
ส่วนตัวซุนนานเองก็อื้ออึง สนใจกับความคิดอ่านที่เกิดขึ้นจากการตระหนักรู้ห้วงอารมณ์ของหนิงหวงไม่น้อย
ไอ้นี่นับเป็นผู้เจนศึกโดยแท้ เพียงแค่ชั่วครู่ก็คิดอ่านได้มากมายมีปัญญานัก
หากแต่ปัญหาของมันคือต่ำทรามเกินไป
เป็นบุรุษฉิบหายเช่นไรจึงหวังขืนใจสตรีเช่นนี้ หากปล่อยปละเรื่องนี้ไปซุนนานอาจจะไว้ชีวิตมัน เพื่อหาผลประโยชน์ก็ได้
หากแต่เพราะมันมีสันดานเช่นนี้ซุนนานก็ไม่คิดเอามันไว้เช่นกัน เพียงแต่… การฆ่าคนมีหลากหลาย และตัวซุนนานก็รู้ดี เรื่องบางอย่างหากใช้ปัญญาย่อมประเสริฐกว่าซุนนานแสร้งทำทีท่าเก็บปืน
“ข้าคือโจรป่าและนายพรานผู้ชำนาญที่อยู่ภายใต้อำนาจของท่านมหาอุปราชไร้นามผู้ยิ่งใหญ่ ไม่น่าเชื่อค่ำคืนนี้ตรวจผืนป่ากลับพบเหตุการณ์ไม่คาดฝันพบเรื่องหลากหลายเหลือเกิน ท่านหนิงหวงคิดเห็นเช่นไรกับการมีโอกาสได้ทำงานกับท่านมหาอุปราชไร้นาม ชื่อเสียงแห่งท่านช่างยิ่งใหญ่ อีกไม่ช้าคงระบือไกลทั่ว 4 อาณาจักร ปกครองใต้หล้า”
หนิงหวงตอนนี้แสร้งยิ้ม ส่วนนัยน์ตาแอบจับจ้องสังเกตปืนในมือที่วางลงของซุนนานตลอด ไม่ช้าก็ยิ้มบางเบาดึงเวลาของตัวเองเต็มที
พร้อมพยายามสังเกตพลังปราณในร่างซุนนาน มันพบว่าการก่อปราณในร่างของซุนนานช่างบางเบา ด้วยการที่ไม่ได้ตรวจจับชีพจรอย่างละเอียด และไม่อาจจะสัมผัสการปะทุของปราณตามร่างกายได้
หนิงหวงประเมินซุนนานว่าระดับปราณแห่งมันคือสร้างรากฐาน [ระดับที่ 1] หรือชุบร่าง [ระดับที่ 2] เท่านั้น เพราะในระดับเปิดชีพจรทวารไอปราณในร่างจะปะทุออกมาให้สังเกตได้ง่ายในผู้ฝึกฝน หากแต่บุรุษตรงหน้ากลับไม่มีเลย
หนิงหวงตอนนี้จึงคล้ายเบาใจบางอย่าง
นอกจากนั้นเวลานี้รอบตัวซุนนานหนิงหวงขยายการรับรู้ของตัวเองก็พบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ด้วย ในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ โดยทั่วไป ไม่มีผู้ใดมาเดินป่าเพียงผู้เดียวในแดนเปลียวเช่นนี้แน่ ยกเว้นจะมีเรื่องลับๆ ต้องกระทำเช่นสองแม่ลูกแซ่หู
ส่วนมันผู้นี้พูดกล่าว่าเป็นโจรป่าและนายพรานชำนาญ หนิงหวงขบคิดเห็นเช่นนี้นับว่ามีเหตุผล เพราะเวลาเช่นนี้คงมีแต่นายพรานชำนาญเท่านั้นที่จะส่งมาให้เดินราดตะเวณบริเวณชายแดนเช่นนี้
และเมื่อมันขบคิดรอบคอบไม่ช้าก็ยิ้ม คล้ายมีอุบายในใจ
ซุนนานก็ยิ้มบางเบาทำใสซื่อเช่นกัน
.
.
.
ตอนนี้สองบุรุษต่างมีมีดลับ หากแต่มีดลับในมือนี้ใครจะคม และเหี้ยมหาญกว่ากันก็เท่านั้นเอง