Skip to main content
ข้าเกิดใหม่มาเป็นต้นไม้ในแดน "เซียน" พร้อมระบบ

[RAAT] 005 : สุญญตาไร้ขอบเขต มหาคัมภีร์แห่งความว่างเปล่า

By 23/02/2025No Comments

-[ติ้ง ท่านทำได้อย่างไร 10 ปี แต่ท่านไม่ขยับไปไหนเลย ท่านคือความภูมิใจของระบบ ระบบสุ่มของรางวัลอันยิ่งใหญ่ให้ท่าน หวังว่ามันจะเป็นสิ่งที่ท่านชอบ]-

-[ติ้ง ท่านได้รับคัมภีร์สุญญตาไร้ขอบเขต มหาคัมภีร์แห่งความว่างเปล่าของเซียนบรรพกาล]-

ข้อมูลมากมายประดังเข้ามาในห้วงสำนึกของเฉียนฉี เขาเจ็บปวด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกทรมานเหมือนจะตาย

-[ติ้ง ตรวจพบว่าอำนาจจิตของท่านไม่เพียงพอที่จะแบกรับการรู้แจ้งแห่ง ‘คัมภีร์สุญญตาไร้ขอบเขต’ ระบบทำการผนึกคัมภีร์]-

-[ติ้ง ระบบทำการตัดแบ่งคัมภีร์เป็นด่าน]-

ห้วงสำนึกของเฉียนฉีหยุดแตกร้าว

ตอนนี้เพียงเฉียนฉีหยั่งจิตสำนึกของตัวเองไปในมโนวิญญาณหรือทะเลจิตสำนึก

มันจะมีหนึ่งประตูโบราณตั้งอยู่ เรียงต่อกันเก้าบาน ประตูแรกถูกเปิดออกแล้ว

เฉียนฉีรับรู้ว่าคัมภีร์โบราณนี้พิเศษมาก มันเป็นคัมภีร์แห่งเซียนอย่างแท้จริง

เพียงแค่เฉียนฉีได้ตระหนักรู้ส่วนแรก เขาก็เข้าใจความลี้ลับของโลกและกฏธรรมชาติบางส่วน

ความว่าง คือความเป็นนิรันดร์

ในมีคือไม่มี

ในความไม่มีซ่อนสิ่งทั้งปวงเอาไว้

ซึมซับตื่นตันความรู้แจ้งจากเคล็ดวิชาอยู่นาน

ซึกซาก ซึกซาก ต้นสนทองคำ ร่างของเฉียนฉีกิ่งใบสั่นไหว กลิ่นอายแห่งต้นไม้เซียน ที่แผ่นสัมผัสตบะน่าหวาดกลัวค่อยๆ ถูกเก็บซ่อน

สีสันประกายทองที่ดูน่าอัศจรรย์คล้ายค่อยๆ หายไป

ต้นสนที่มีบางส่วนเป็นทองคำ ตอนนี้คล้ายกลายเป็นต้นไม้ธรรมดามากขึ้น

จิบ จิบ จิบ

เวลาก้าวผ่าน ค่ำคืน ดึกมาก มีนกน้อยตัวหนึ่งบินมาเกาะกิ่งก้านของต้นสนทองร่างของเฉียนฉี

ในห้วงสำนึกเฉียนฉีดีใจประหลาด

วันเวลาย่างก้าว

การใช้ชีวิตเป็นต้นไม้ เริ่มไม่แย่เกินไปสำหรบเฉียนฉี เขาเริ่มมีเพื่อนแวดล้อม สัตว์น้อยใหญ่ไม่กลัวเขาอีกแล้วนับตั้งแต่ได้คัมภีร์อันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เขาเก็บกลิ่นอายของตัวเองได้

คัมภีร์สุญญตาไร้ขอบเขตยิ่งใหญ่กว้างไกล สิ่งที่เฉียนฉีนำมาประยุคใช้กับตัวเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ

ในปีที่ครบ 12 ปี ที่อยู่นิ่งเฉย

ด้วยคัมภีร์อันยิ่งใหญ่นี้ เฉียนฉีสร้างดวงจิตเป็นบอลวิญญาณสีทองกลมใสได้

ในความจริงการสร้างลูกกรอกวิญญาณ หรือที่เรียกว่า ‘ปฐมวิญญาณ’ หรือ ‘วิญญาณทารก’ นั้น ความจริงเป็นสิ่งที่ควรจะสร้างได้เมื่อก้าวสู่ขอบเขตสี่ในเส้นทางบำเพ็ญเซียน

แต่ด้วยมหาคัมภีร์อันยิ่งใหญ่

เฉียนฉีสร้างมันได้ก่อนเวลา อำนาจจิตและดวงวิญญาณของเฉียนฉีขยายเร็วมาก เฉียนฉีไม่รู้ว่านี่สำคัญและยิ่งใหญ่เพียงไร

แต่เพราะการสร้างลูกกรอกวิญญาณสำเร็จ เฉียนฉีคล้ายเคลื่อนที่ไปมาได้แล้ว

บอลวิญญาณสีทองขนาดหนึ่งกำมือโปร่งใสบินไปบินมารอบต้นสนทอง

ในใจเฉียนฉีคิด เขาควรลองบินออกไปไกลจากต้นสนทองคำที่เป็นร่างตัวเองไหม

เพียงแต่คิดไปคิดมา

‘ไม่ได้ ไม่ได้ ข้าไม่ควรเสี่ยง สิ่งนี่ยังนับเป็นความสำเร็จเล็กน้อยของตัวข้า นอกจากนั้นด้วยความเข้าใจที่คัมภีร์สุญญตามอบให้ ทำให้ข้ารู้ว่าดวงวิญญาณนี้อ่อนแอขนาดไหน หากดวงวิญญาณที่เป็นลูกกรอกบอลกลมของข้านี้เสียหาย เกิดเจอภูตผีและเหล่าเซียนแก่นทองคำจับได้ ข้าอาจจะถึงตาย พวกนั้นอาจจะคิดว่าข้าเป็นสมบัติฟ้าดิน นำข้าไปหลอมเป็นโอสถไม่ก็สมบัติวิเศษ เฉียนฉีเจ้าต้องเตือนตัว ยิ่งรู้จักโลกใบนี้ก็ยิ่งต้องหวาดกลัว’

เฉียนฉีกล่าวกับตัวเองจบ ส่วนที่เป็นลูกกรอกวิญญาณ บินเร็วลอยกลับเข้าร่างต้นสนทองคำ

และเป็นตอนนี้เองที่อยู่ๆ หัวใจของเฉียนฉีเต้นแรง

‘มีคนกำลังบินมาทางนี้เร็วมาก สัตว์อสูรงั้นเหรอ ดูเหมือนจะไม่ใช่’

เฉียนฉีเมื่อเขาเริ่มจับภาพ ไม่ช้าเขาจึงได้เห็น…

‘ผู้บำเพ็ญเซียนมนุษย์ 12 ปี 12 ปี ข้าพึงเห็นมนุษย์ครั้งแรก’

ท้องฟ้าเสียงระเบิดกัมปนาทดังต่อเนื่อง มีมนุษย์บินได้เกือบสิบคนบินเหยียบกระบี่คล้ายกำลังทำร้ายชายหญิงคู่หนึ่ง

แต่ชายหญิงคู่นี้ก็ดูจะไม่ธรรมดา ทั้งสองตอบโต้กลุ่มผู้บำเพ็ญเซียน 10 คนได้ แม้จะดูเสียเปรียบ แต่ก็ไม่เพรี้ยงพร่ำถึงขีดสุด

ดูเหมือนคู่ชายหญิงจะมีปัญญาอยู่บ้าง รู้ว่าสู้ตรงๆ ไม่ได้จึงบินต่ำเข้าป่า แนวเทือกเขาที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูร

1 วัน 2 วัน ผ่านไป ไม่ช้าก็ 7 วัน

เฉียนฉีพึงเคยสัมผัสถึงการต่อสู้ของเหล่าผู้บำเพ็ญเซียน

นับว่าเต็มไปด้วยอุบาย

หากฆ่าไม่ได้ด้วยกำลังที่เด็ดขาด ยันต์ สมบัติวิเศษดูเป็นตัวช่วยที่สำคัญ

หุบเขาเบื้องต่ำ รอบด้านเต็มไปด้วยต้นไม้หักโค่น ชายใบหน้าดุหลายคนมองซากศพ ร่างของพวกเขาสามคนมีใบหน้าเหนื่อยอ่อน

“ในที่สุดพวกเราก็ฆ่านางมารและศิษย์ทรยศสำเร็จ” ผู้บำเพ็ญเซียนชุดดำหน้าดุพูดขึ้น เขาใช้ฤทธิ์ควบคุมกระบี่ของตัวเองพุ่งไปที่ลำธารใสที่ตอนนี้มีร่างชายหญิงมีท่วงท่าคล้ายชายค่อมร่างบังร่างหญิงงาม

แผ่นหลังชายมีกระบี่หลายเล่มปักไว้

ฟิว กระบี่บินเร็วตัดมือชายหญิงคนละข้าง จุดสังเกตุ มือที่กระบี่บินตัดนั้นคล้ายสวมแหวนและเครื่องประดับอยู่

กระบี่บินปักกลางมือขณะแขนที่ถูกตัดลอย

ไม่ช้ากระบี่บินกลับหานาย

“ศิษย์พี่ใหญ่โจวครั้งนี้ท่านมั่งคั่งแล้ว ‘ฉู่อาน’ พึ่งกลับแดนไร้อริยะ เป็นเขตแดนโบราณที่ว่ากันว่ามีเซียนขอบเขตฝ่าเคราะห์ปกครองแต่โบราณ ภายในนั้นมีสมบัติมากมาย แหวนสมบัติของฉู่อานน่าจะมีของล้ำค่ามากมาย ศิษย์พี่ใหญ่โจวร่ำรวย ร่ำรวยแล้ว”

ชายหน้าดุแซ่โจวขมวดคิ้ว

“ใครว่าฉู่อานตาย มันหนีไปได้ต่างหาก ข้าได้สัมบัติใดๆ ของมันกับนางปีศาจแซ่กู่ที่ไหน”

กลุ่มเซียนหลายคนลืมตาเหลือก ไม่ช้าก็ยิ้ม

“พี่ใหญ่โจวพูดถูก พี่ใหญ่โจวพูดถูก”

โจวเฮิงเก็บกระบี่บิน หลังจากหยั่งสำนึกลงไปในแหวนสมบัติ เขายิ้มใบหน้าพอใจ

ไม่ช้ามองไปที่ซากศพคู่ชายหญิง เมื่อส่งจิตสัมผัสปราณ พบว่าทั้งสองตายจริง โจวเฮิงร่ายคาถาควบคุมกระบี่ ดึงกระบี่ที่ปักอยู่ที่หลังของฉู่อานลงมาเก็บที่แหวนสมบัติของตนเอง

“พวกเราไปได้”

“ขอรับพี่ใหญ่”

เวลาค่อยๆ ผ่านไป

ราวสองชั่วยาม

โจวเฮิงบินกลับมาอีกครั้ง

เขาลอยตัวเหนือศพ “มันตายจริงๆ สินะ ข้าส่งหนูวิญญาณวิ่งทั่วป่า แต่ไม่อาจจะสัมผัสปราณเซียนของใครได้” โจวเฮิงกล่าวจบประโยคนี้เขาหายใจเข้าลึกจนอกคล้ายเป่งบวม ขยายใหญ่ราวอึงอางพ่องตัว

จากนั้นเขาเป่าลม มีลูกไฟออกจากป่า บอลไฟพุ่งไปเผ่าศพฉู่อานและสตรีที่ถูกเรียกว่านางมารแซ่กู่

จัดการศพเสร็จโจวเฮิงบินจากไป

อีกหนึ่งชั่วยามผ่านไป

มีหนึ่งร่างอ่อนแอลอยขึ้นมาจากคลองใส

สังเกตุดีๆ ก่อนที่เขาจะลอยพ้นน้ำ เขาดำดินอยู่ใต้คลอง

ชายคนมีใบหน้าเหมือนศพที่ถูกเรียกว่าฉู่อาน

สองมือเขาอุ้มสตรีอยู่

“นักล่าโลหิตจากสำนึกเขาดำไปแล้ว แม่นางกู่ท่านปลอดภัยแล้ว”

“ปล่อยข้าลง”

“แม่นางกู่ข้าปล่อยท่านแน่ เพียงแต่ต้องเป็นช่วงเวลาที่ท่านหายดี ตอนนี้หาข้าปล่อยมือท่าน แม้ท่านจะรอดตาย แต่ลูก…”

“ลูกอะไร ข้ากู่หมินคือนางเซียนปีศาจร้าย ข้าจะมีลูกได้อย่างไร”

“แม่นางกู่ท่านและข้าต่างรู้ดีแก่ใจ ฟ้าลิขิตให้พวกเราพูกสัมพันธ์ ในวันนั้น ณ แดนไร้อริยะ แม้ข้าจะไม่ได้ตั้งใจแต่…”

“หุบปาก เจ้ากับข้าไม่มีอะไรกันทั้งนั้น!!!”

เฉียนฉีที่ส่งจิตแอบฟัง เขาตกตะลึงเล็กน้อย

ได้เสียพูกสัมพันธ์กันโดยบังเอิญ ณ แดนลับอันตราย นี่มันบทพระเอกนางเอกชัดๆ

ส่วนเฉียนฉี ตัวเขาเป็นต้นไม้ เขาเข้าใจภาษาพูดคุยของคนโลกนี้ได้อย่างไร สิ่งนี้ต้องขอบคุณรางวัลจากระบบเมื่อนานมาแล้ว

รางวัลเข้าใจภาษามนุษย์