Skip to main content
ตำนานผู้วิเศษ

[MageLegend] ตอน 390 : พี่เขย

By 11/03/2024No Comments

‘นี่คือแม่น้ำแห่งจุดจบงั้นเหรอ มันแตกต่างจากแม่น้ำธรรมดาจริงๆ พลังวิเศษทั้งหมดของข้าแทบจะถูกดูดกลืนเข้าไปในแม่น้ำอย่างรวดเร็ว ข้าจะสัมผัสมันโดยตรงไม่ได้’ เซี่ยซีหานควบคุมรากไม้ที่ยืดยาวจากมือของตัวเอง จากที่มันละล่องโต้แหวกสายน้ำ ตอนนี้เขาไม่พยายามให้รากไม้ที่เกิดจากพลังวิเศษสัมผัสแม่น้ำน้ำอีก เขาพบว่าแม่น้ำแห่งนี้ประหลาดสมกับชื่อของมัน หากผู้วิเศษตกลงไป เซี่ยซีหานมั่นใจว่าผู้วิเศษส่วนใหญ่จะตายแน่นอน

จากการสังเกต เซี่ยซีหานพบว่ามันน่าจะไม่มีผลต่อผู้ฝึกปราณพลังเท่าไหร่ ไม่เช่นนั้น ท่านชายเหวินชูน่าจะไม่รอดแล้ว

ไม่ช้ารากไม้ก็ร้อยรัดร่างของท่านชายเหวินชูได้ เซี่ยซีหานพยายามดึงท่านชายขึ้นจากกระแสน้ำเพียงแต่ ‘!หนักมาก’ เซี่ยซีหานบ่นในใจ โชคดีเขาคือผู้เดินบนสองเส้นทาง แม้สิ่งที่สร้างด้วยพลังวิเศษเมื่อสัมผัสหยดน้ำของสถานที่แห่งนี้แล้วพลังวิเศษคล้ายแตกสลายและถูกดูดกลืน แต่ด้วยพละกำลังที่เทียบเท่านักรบขอบเขตทะเลปราณ เซี่ยซีหานไม่มีปัญหาที่จะดึงร่างท่านชายเหวินชูขึ้นมา

“อ้าาาาาา ขึ้นมา” จากแขนเล็กๆ ของเซี่ยซีหาน เส้นเลือดปูดนูนเห็นชัดนัก แขนยาวๆ ของเซี่ยซีหานยกร่างท่านชายขึ้นจากน้ำได้สำเร็จ

สุริยันใกล้ลับขอบฟ้า

“ที่นี่ที่ไหนกัน…” ท่านชายเหวินชูพูดน้ำเสียงแผ่วเบา ดวงตาของเขาเปิดขึ้นอย่างช้าๆ เขาสัมผัสไอร้อนจากเบื้องหน้าได้

“ท่านตื่นแล้วเหรอท่านชาย” หยางฮ่าวส่งเสียง

เสียงของหยางฮ่าวให้ความคุ้นเคยมาก ท่านชายพยายามรวบรวมสติ และพยายามบังคับให้นัยน์ตาสู้แสง และภาพตรงหน้าที่ท่านชายเห็น “เจ้า…”

หยางฮ่าวในร่างคนเถื่อนตัวเขียวยิ้ม

“พวกเราหยุดพักอยู่ที่นี่เพื่อท่าน ตอนนี้เราอยู่ในดินแดนคนเถื่อน ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรท่านชาย”

ท่านชายไม่ได้รีบตอบ เขาไม่อาจจะพูดได้ว่าเขาถูกไล่ล่าด้วยเหตุผลใด

เปาะแปะ เปาะแปะ เสียงไหม้แตกร้าวของไม้จากความร้อนของไฟดังไม่หยุด มุมไกลๆ มีเสียงฝีเท้าของคนเดินมา

ท่านชายสังเกต เขาเห็นคนเถื่อนผิวเขียวชายหญิง นอกจากนั้น… ‘มนุษย์ ไม่ใช่ ที่แห่งนี้ไม่น่าจะมีมนุษย์ปรากฏตัวได้ แต่ผิวของนางสีขาวกระจ่างมาก นอกจากนั้นนางก็ไม่มีเขี้ยว และใบหน้าของนาง’ ท่านชายเหวินชูพบว่าถังหยางยี่นางดูเหมือนมนุษย์มาก นอกจากนั้นนางยังงดงาม

แต่ในไม่ช้าจุดสังเกตส่วนใหญ่ของท่านชายก็เพ่งพินิจไปที่… เซี่ยซีหาน เขาไม่ใช่ชายที่ลุ่มหลงความงาม

“คนเถื่อนผู้นี้…”

หยางฮ่าวไม่รอให้ท่านชายพูดจบ เขารีบกระซิบข้างหูท่านชายทันที

“ท่านชายเหวินชู ท่านนี้ก็คือนายน้อยของข้าเซี่ยซีหาน ท่านก็รู้จักเขา ข้าได้ยินว่าท่านกับนายน้อยของข้าเรียกกันพี่น้องเลยซะด้วยซ้ำ นี่เรื่องจริงหรือเปล่าขอรับ”

ดวงตาท่านชายเหวินชูคล้ายเบิกกว้างเล็กน้อย แน่นอนเขาไม่คิดว่าจะเจอเซี่ยซีหานที่นี่ นอกจากนั้น เมื่อท่านชายกวาดจิตสัมผัสไปที่ร่างของไอ้ตัวเขียวผอมแห้งเซี่ยซีหาน เขาก็ตกใจ “นักรบขอบเขตเปลี่ยนเลือด” เขาไม่คิดว่าเซี่ยซีหานจะมีพัฒนาการที่รวดเร็วแบบนี้ เจ้าเด็กนี่พึงอายุเท่าไหร่กันเชียว

“พี่เขย…”

ท่านชายเหวินชูขมวดคิ้ว น้ำเสียงของเซี่ยซีหานทำให้เขารู้สึกเสี้ยวสันหลังแปลกๆ และคำว่าพี่เขยนั้นมีความหมายว่าอะไร ในช่วงเวลาสั้นๆ ท่านชายดูเหมือนจะไม่เข้าใจสิ่งที่เซี่ยซีหานพูด

แต่เซี่ยซีหานก็ดูจะไม่สนใจทีท่างงงันของท่านชายมากนัก เขารู้ตัวว่า บางครั้ง เส้นทางความรักก็อาจจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีแต่ตัวเราเองที่ต้องบุกป่าฝ่าดงเพื่อมัน โดยที่ท่านชายไม่รู้ ในใจของเซี่ยซีหานมีความคิดชั่วร้ายต่อท่านชายมากมาย

ท่านหญิงเหวินชูเหยานั้นดูเหมือนนางจะไม่ยอมตกลงอยู่ในฮาเร็มของเซี่ยซีหานแต่โดยดีแม้เขาจะใช้แผนการและเด็กๆ เข้าช่วยมากมาย

แต่ถ้าเซี่ยซีหานเข้าทางพี่เขยได้ละ คิกคิก เซี่ยซีหานไม่อยากจะคิดต่อ โอกาสปักธงท่านหญิงเหวินชูเหยาสำเร็จไม่รู้ว่าจะเพิ่มกี่ร้อยเท่า ไม่น่าเชื่อโอกาสเก็บแต้มหญิงงามจะอยู่ที่ดินแดนวินาศนี่เอง

“พี่เขยกินสิ่งนี้ก่อน” เนื้องูย่างร้อนๆ ถูกยื่นให้ท่านชายเหวินชู พร้อมใบหน้ายิ้มที่ออกจะดูชั่วร้ายของเซี่ยซีหาน

อาจจะเพราะด้วยความหิวและความงงงันท่านชายไม่ปฏิเสธ ตอนนี้อย่างน้อยๆ ในความรู้สึกของตัวเขา เขาไอ้ออกจากอันตรายร้ายแรงสำเร็จแล้ว

เจนและนางลูกครึ่งคนเถื่อนถังหยางยี่นั่งมองท่านชายกิน แม้ตอนนี้เขาจะอยู่ในแดนเถื่อน แต่เวลาที่เขากินอาหารมันก็ไม่ได้ดูตะกละตะกลามแม้แต่น้อย นี่แสดงถึงการได้รับการอบรมอย่างดี

ถังหยางยี่คาดเดาว่าท่านชายเหวินชูคือชนชั้นสูง

ส่วนเจนนางมีความไม่พอใจมนุษย์ ดังนั้นแววตาที่นางมองท่านชายจึงไม่ดีนัก

สิ่งดีงามอย่างหนึ่งเมื่อเราอยู่ในกลุ่มคนเถื่อนก็คือ ไม่ว่าเราจะพูดอะไร หากเรามีผิวสีเดียวกับคนเถื่อนและมีเขี้ยวสองซีก คนเถื่อนจะเชื่อในทุกๆ คำพูดของเรา ด้วยเหตุผลเพียงแค่… พวกเราคือเผ่าพันธุ์เดียวกัน

“เจ้ามนุษย์ชั่วช้าเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เจ้าวางแผนจะจับพี่น้องของพวกเราอีกใช่หรือไม่” หลายวันมานี่หยางฮ่าวฝึกเจนให้พูดภาษามนุษย์ นางจึงพูดภาษามนุษย์ได้ดีขึ้นมาก

ท่านชายสับสนเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่านางคนเถื่อนหมายถึงอะไร แน่นอนท่านชายไม่ได้มาที่นี่เพราะต้องการหัวใจของเหล่าคนเถื่อนเช่นมนุษย์ชั่ว ตลอดเวลาที่เขาอยู่ในดินแดนวินาศมีแต่การหนีตาย

“เอ่อ…”

ท่านชายยังไม่ทันได้พูดอะไร กับเป็นเซี่ยซีหานที่ก้าวเท้ามายืนรับหน้าแทนท่านชายและพูด

คำพูดของเซี่ยซีหานทำให้ท่านชายงงงันกับสถานการณ์ยิ่งกว่าเดิม

“เจนเจ้าเข้าใจผิดชายคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ แต่จริงๆ เขาคือพี่น้องคนเถื่อนของเรา”

“ไม่ใช่เขาคือมนุษย์” เจนเถียงเสียงแข็ง

เพียงแต่ในไม่ช้า เมื่อเซี่ยซีหานเอามือทาบแผ่นหลังของท่านชาย ผิวของท่านชายไม่ช้าก็กลายเป็นสีเขียว จากนั้นมีเขี้ยวงอกออกมาที่ปาก เซี่ยซีหานรีบขยิบตาให้ท่านชายทันที

ท่านชายตอนนี้รับรู้สถานการณ์ของเซี่ยซีหานได้ในระดับหนึ่ง และเขาก็ไม่ใช่คนโง่

เขาจึงรีบยิ้มและพูด

“ข้าคือคนเถื่อน”

ดวงตาของเจนตกตะลึง นางดูสับสนเล็กน้อย มองจ้องเซี่ยซีหาน หยางฮ่าวและถังหยางยี่

“ใช่จริงๆ เขาเป็นพี่น้องของพวกเรา”

พรืดดดดดด ถังหยางยี่นางลูกครึ่งคนเถื่อนสำลักน้ำ ก่อนที่นางจะหัวเราะและขำ แน่นอนว่าในบรรดาเผ่าพันธุ์คนเถื่อนทั้งหมด คนเถื่อนผิวขาวนั้นทรงสติปัญญามากที่สุด นอกจากนั้นถังหยางยี่นางยังเกิดและเติบโตที่ดินแดนของมนุษย์ ดังนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้านางจึงตลกมากสำหรับนาง

“หยางยี่ เจ้าเป็นอะไร ทำไมเจ้าจึงหัวเราะ”

“ฮะฮาฮ่า ไม่มีเจน ข้า ฮะฮาฮา ข้าแค่สำลักน้ำเฉยๆ”

บรรยากาศดูชื่นมื่นขึ้นมาทันใด แต่ในอีกไม่กี่อึดใจต่อมาก็คล้ายมีเรื่องตลกสำหรับถังหยางยี่อีก เมื่อเจนพูดว่าทำไมเจ้าเอาแต่พูดภาษามนุษย์

ตอนนี้ถังหยางยี่นางดูเซี่ยซีหานและหยางฮ่าวว่าทั้งสองจะแก้สถานการณ์อย่างไร ถังหยางยี่นางรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเซี่ยซีหานและหยางฮ่าวเป็นมนุษย์ แต่นางแค่ไม่พูดมันออกมาเท่านั้น

ถังหยางยี่นางสัมผัสได้่ว่าทั้งหยางฮ่าวและเซี่ยซีหานต่างกำลังส่งเสียงจิตให้ท่านชายเหวินชู แม้นางจะไม่มีความสามารถนี้เช่นเดียวกับทั้งสอง

เสียง อุ้มบ่ะบะ อุ้มบ่ะบะ ดังออกจากปากท่านชายพร้อมใบหน้าที่ดูเขินอายเล็กน้อย แม้ภาษาของคนเถื่อนจะใกล้เคียงกับมนุษย์ แต่การออกเสียงจะไม่ใช่เหมือนกันเสียทีเดียว มันก็จะฟังดูแปร่งๆ ท่านชายผู้เพียงพร้อมจึงเขินอายอยู่บ้างเวลาพูดออกมา

ในที่สุดท่านชายก็เอาตัวรอดจากเจนมาได้

และเขาก็ได้ชื่อในภาษาคนเถื่อนว่า ‘บอนด์’ จากการที่เซี่ยซีหานตั้งชื่อให้

เวลาค่อยๆ ล่วงผ่าน ในที่สุดฟ้าก็มืดอีกครั้ง เจนและถังหยางยี่ถือโอกาสนอน เพื่อที่วันพรุ่งนี้ พวกเขาจะเข้าไปใจกลาง ‘ป่าสุริยันศักดิ์สิทธิ์’

เหล่าบุรุษจึงถือโอกาสนี้พูดคุยกัน เพียงแต่ว่าในช่วงแรกนั้นมันออกจะมีแต่เนื้อหาที่ไร้สาระไปสักนิดในการพูดคุย ทั้งหมดก็เพราะ… เซี่ยซีหาน

“พี่เขยเอ่อ ข้าอยากถามความรู้สึกท่านสักนิด ท่านรู้สึกอย่างไรกับชายที่มีหญิงอันเป็นที่รักสองคน ไม่ไม่ ไม่สิ สามคน ไม่ใช่อีกเหมือนกัน สองคนหนึ่งคนเถื่อนผิวขาว…”

“แคร่ะๆๆ” ท่านชายเหวินชูไอหนัก จากการพูดคุยก่อนหน้า เขารับรู้แล้วว่าน้องสาวของตัวเองตอนนี้พักอาศัยอยู่ในกลุ่มของเซี่ยซีหาน นอกจากนั้นไอ้เจ้านี่ยังชอบพอน้องสาวของเขาถึงขั้นเรียกตัวเขาว่าพี่เขย เพียงแต่ปัญหามีอยู่ว่า… มันไม่ได้ชอบน้องสาวเขาเพียงคนเดียว แต่มีถึงสามคน นอกจากนั้นในสามคนนี้ ยังมีหนึ่งคนเป็นลูกครึ่งคนเถื่อน ท่านชายเหวินชูเดาได้ทันทีว่าคนเถื่อนที่เซี่ยซีหานพูดคือใคร ‘ไอ้ระยำ’ คือคำพูดเดียวที่ดังก้องในหัวของท่านชายเหวินชู

โดยทั่วไปแม้ภายนอกและการแสดงออกส่วนใหญ่ของท่านชายนั้นจะดูเจ้าชู้มากรัก แต่ใครจะรู้ทั้งหมดนั้นคือการแสดง มารดาของท่านชายนับว่าเป็นนางบำเรอมาก่อน หากไม่ใช่เพราะบิดารักมารดาท่านชายมาก ท่านชายและน้องสาวคงไม่ได้รับฐานะและความเอ็นดูแบบนี้ แต่เพราะการที่มารดาคล้ายจะเป็นนางบำเรอมาก่อนท่านชายจึงให้ความสำคัญกับหญิงสาวมาก เพราะเขาไม่อยากสร้างแผลใจใดๆ ให้กับมารดาและน้องสาว เขาจึงทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเสมอต่อหน้าพวกนาง

แต่ไอ้เจ้านี่กลับ…

มุมปากท่านชายกระตุกยิ้มฝืด เขาต้องก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปก่อน แม้ในใจอยากจะควักมีดสั้นมาจ้วงท้องเซี่ยซีหานให้ตายๆ ไปเสียเหลือเกิน

“ขอเพียงมีความจริงใจและกล้าที่จะรับผิดชอบหญิงที่ตนรัก แค่นั้นก็เพียงพอ ในโลกใบนี้บุรุษใดเล่าจะคิดมีสตรีรักแค่เพียงหนึ่ง น้องชายว่าจริงไหม”

“ใช่ใช่ใช่” ใบหน้าลูกหมาสีเขียวของเซี่ยซีหานพยักหน้ารับเร็ว เขาถูกใจคำพูดท่านชายเหวินชูจริงๆ ท่านชายผู้นี้แหละจะเป็นกำลังสำคัญของเขาในการเป็นยอดชายของโลกใบนี้ เส้นทางพระเอกฮาเร็มของเซี่ยซีหานกำลังถูกขีดเขียน

โดยที่เซี่ยซีหานไม่รู้

ท่านชายผู้นี้อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญที่สร้างความปั่นป่วนให้เขาเป็นที่สุดก็เป็นได้

ถังหยางยี่นางยังไม่หลับ นางได้ยินสิ่งที่เซี่ยซีหานพูด