วันนี้อรินโดนภรรยาของคุณอาด่าจนแทบจะหูชา โชคยังดีที่คุณอาอยู่ด้วย เขาพยายามที่จะห้ามไม่ให้เธอผู้เป็นภรรยาของเขาลงไม้ลงมือกับอริน ซึ่งแม้ตอนนี้เธอจะอายุเกือบๆ จะ 14 แล้ว แต่ยังไงเธอก็ยังอายุเด็กมากอยู่ดี คุณอาพยายามหาเหตุผลเพื่อช่วยเหลืออรินเป็นอย่างมาก
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขารู้สึกดีกับอรินจริงๆ และอีกส่วนก็เป็นเพราะความรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นคนไม่เอาไหน เขาไม่ใช่คนเก่งอะไร และการที่เขามีความเป็นอยู่ที่ดีได้นั้นส่วนใหญ่ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากพี่ชายของตัวเอง
หรือก็คือคุณพ่อของอริน…
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ได้ทำผิดต่อลูกสาวของพี่ชายตัวเองอย่างมากมาย มันเหมือนเป็นบาปที่เขาไม่สามารถชดใช้ได้
เขาได้เป็นผู้ดูแลมรดกของพี่ชายตัวเองและภรรยาของพี่ชายเขา ตอนแรกเขาตั้งใจเก็บมันไว้ให้อรินอย่างแท้จริง แต่เพราะงานที่เขาทำกับภรรยามันล้มเหลวไม่เป็นท่า
และด้วยคำพูดยั่วยุของภรรยาเขา หากเขาไม่สามารถหาเงินได้ เธอจะหย่ากับเขาและนำลูกของเขาไป ไม่ให้โอกาสเขาได้เห็นเธออีก
หัวใจของผู้ชายคนนี้ก็รู้สึกเหมือนกับว่า เขาก็กำลังจะต้องสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ดังนั้นเขาจึงได้เลือกทางเดินที่เห็นแก่ตัว และทำร้ายเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของผู้มีบุญคุณต่อตัวเขาเอง ลูกสาวแท้ๆ ของพี่ชาย
และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกผิดในเรื่องนี้อยู่ตลอด ทำให้เขามักจะแอบภรรยา เอาเงินให้อรินมากกว่าความเป็นจริงอยู่เสมอ
และเพราะเหตุนี้มันก็ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของอรินไม่ได้แย่ถึงที่สุด อย่างน้อยๆ ผู้ชายคนนี้ก็มีหัวใจอยู่บ้าง เขารักและเอ็นดูเธอหากแต่เขาก็อ่อนแอเช่นกัน
ในที่สุดช่วงเช้าที่แสนวุ่นวายก็ผ่านไป อรินตื่นสายไปเล็กน้อย ประมาณหนึ่งชั่วโมง และนั่นทำให้ภรรยาของคุณอาโมโหเป็นอย่างมาก
แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไป คุณอาอยู่ข้างเธอ และช่วยให้เธอผ่านสถานการณ์แย่ๆ นี้ไปได้
วันนี้อรินก็เดินไปโรงเรียนเหมือนเดิม เพียงแต่ เด็กผู้ชายเกเรที่ชอบแกล้งเธอ วันนี้เธอไม่เห็นพวกเขาเลย จนกระทั่งเข้าเรียน
เมื่อเข้าไปในห้องทันทีที่เด็กเกเรเห็นอริน พวกเขาก็พยายามทักทายเธอแบบแปลกๆ และดูกลัวๆ ด้วย
ในใจอรินได้แต่คิด พวกเขาคงกลัวชายสูงวัยที่จิตใจดีแน่ๆ นอกจากนั้นเมื่อในห้องมีเด็กผู้หญิงกำลังจะแกล้งอรินด้วยการปายางลบมาหาเธอ
หนึ่งในสี่ของเด็กเกเรก็มายื่นบังในทันทีพร้อมกับตะโกนขึ้น “หยุดตอนนี้ยัยห..มู…” จากนั้นเขาก็หันมามองอรินแบบหน้าเสีย ก่อนจะพูดใหม่อีกครั้ง “คุณหนูอรินเป็นเพื่อนรักของเรา ห้ามใครแกล้งเธอ”
หลังจากนั้นเพื่อนในห้องก็ต่างแปลกใจ ในไม่ช้าอีกสามเด็กเกเรก็พูดแบบเดี่ยวกัน “คุณหนูอริน หากคุณหนูอรินมีปัญหาอะไร หรือถูกใครแกล้งก็เรียกใช้พวกเราผู้เป็นดั่งเพื่อนแท้ในชาติภพก่อน ไม่สิข้ารับใช้ของคุณหนูได้เลยนะครับ”
ทั้งสี่ไม่พูดเปล่า ต่างคุกเข่า เพื่อนในห้องเห็นต่างก็เป็นงง พวกนี้มันเป็นบ้าอะไรรึเปล่า หรือเป็นการกลั่นแกล้งรูปแบบใหม่
อรินเห็นเช่นนั้นก็แปลกใจเช่นกัน หรือว่านี่จะเป็นแผนแกล้งเธอแบบใหม่ เธอคิดแบบนั้น
แต่เมื่ออรินมองลึกลงไปในสายตาของเด็กเกเรทั้งสี่ สายตานั้นช่างแปลกประหลาด มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังหลงรักใครซักคนอย่างหมดใจ มันเป็นดวงตาที่ใส่ซื่อบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
และนั่นก็ทำให้เพื่อนในห้องต่างงงไปตามๆ กัน นั่นเพราะหากจะมีใครซักคนจะแกล้งไยหมูริน ก็ต้องเป็นพวกมันสี่ตัวเนี่ยแหละที่จะทำเป็นคนแรกๆ
เด็กหญิงและเด็กชายบางคนถึงกับแอบพูดคุยกันเบาๆ ซุบซิบถึงเรื่องนี้ในทันที “วันนี้ไอ้ห่าสี่ตัวนี้มันไปกินยาแบบไม่เขย่าขวดหรือเปล่าวะ เชี้ยพวกแมร่งทำกรูขนรุกไปหมดแล้ว”
ส่วนอรินเธอทำได้เพียงยิ้มแบบเขินอายจากนั้นก็พูดขอบคุณและบอกเพื่อนรักคนใหม่ของเธอทั้งสี่คนไปว่า “ขอบคุณนะ แค่พวกนายไม่แกล้งฉันก็ดีมากพอแล้ว”
จากนั้นทั้งสี่ก็โน้มกายราวกับว่าเป็นทหาร มือข้างหนึ่งแนบมาที่อกซ้าย พร้อมกล่าวคำพร้อมกัน “ตามบัญชาของคุณหนู”
และในวันนี้อรินเธอมีเรียนเกี่ยวกับการเล่นวอลเลย์บอล อรินไม่ใช่คนที่เก่งกีฬามากนัก แต่เธอก็พยายามที่จะทำมันให้ได้ดี
กีฬาวอลเลย์เป็นกีฬาที่ต้องเล่นกันเป็นทีม แต่กลับไม่ค่อยมีคนชอบเลือกเธอไปอยู่ในทีมด้วยเลย เพราะเธอนั้นช้าจนเกินไป และเมื่อเธออยู่ในทีมความพ่ายแพ้ก็เป็นเรื่องปกติ
แต่วันนี้กลับแปลกไป สี่เด็กเกเรมายืนข้างๆ เธอพร้อมโน้มตัว
“พวกกระผมขอแนะนำตัวอีกครั้ง กระผมเล็ก”
“จ๋อย”
“จิด”
“ริด”
“พวกกระผมเก่งกีฬาเป็นอย่างยิ่ง ให้พวกกระผมได้ร่วมฝึกซ้อมและทำการดูแลคุณหนูเถอะนะขอรับ”
อรินมองจ้องไปที่พวกเขาด้วยความดีใจ เธอรู้สึกได้ถึงความเป็นมิตร แม้มันจะแปลกๆ ไปบ้างก็ตาม รวมถึงวิธีการพูดอีกด้วย แต่เธอก็พยักหน้ารับอย่างใสซื่อพร้อมคิดในใจ ‘พวกเขาคงกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วแน่ๆ หรือเพราะว่าพวกเขากลัวคุณลุงจนทำให้พวกเขาเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะ อย่างน้อยๆ ก็ไม่มีคนแกล้งเราแล้ว’
.
.
.
“ปีดดดดดดดดดดดดดดด”
เสียงเป่าเริ่มเล่นเกมดังขึ้น ที่เสาด้านซ้ายมีชายร่างสูงกว่า 175 เซนติเมตรกระโดดตบลูก เป้าหมายของเขาคือ !!!อริน ที่เป็นจุดอ่อนของทีม
ลูกบอลเลย์พุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วมาตรงที่ใบหน้าของเธอ แต่ก่อนที่ลูกบอลเลย์จะโดนหน้าอรินนั้น
จู่ๆ ก็มีร่างของเด็กชายสองคนกระโดดเข้ามาขวางลูกบอลเลย์อย่างรวดเร็ว !!!ริดและเล็ก
“!!!แปะ”
เสียงลูกบอลเลย์กระทบเข้าหน้าริดอย่างจัง เด็กๆ ทุกคนที่ได้เห็นได้แต่ยืนมอง แม้แต่อาจารย์ผู้ฝึกสอนก็เช่นกัน ภาพของเด็กชายที่เกเรสองคนเอาร่างป้องกันเด็กผู้หญิง
หากเป็นเด็กผู้หญิงคนอื่น อาจารย์ผู้สอนอาจจะคิดว่านี่คือพลังแห่งความรักของเหล่าเด็กๆ วัยใส หากแต่นั้นไม่มีทางใช่แน่ๆ สำหรับอรินเด็กสาวที่น้ำหนักเกินเกณฑ์ นอกจากนั้นเธอยังห่างไกลกับคำว่าเด็กสาวน่ารักไปมากอีกด้วย เธอยังมีแว่นที่ใหญ่และหนาอีก นอกจากนั้นไม่ว่ามองมุมไหนเธอก็ไม่ได้ดูน่ารักเลยในสายตาของอาจารย์ผู้สอน
เธอดูเหมือนเด็กสาวที่ไม่ได้รับการดูแลและที่บ้านยากจนอย่างมาก
เสื้อผ้าเก่าสีซีด กระโปรงมีรอยปะอย่างชัดเจน ผิวของเธอดูหยาบจากการทำงานหนัก และสีก็ออกไปทางคล่ำเพราะขาดการดูแล เส้นผมของเธอก็ดูชี้ฟู ผมของเธอดูจะไม่ค่อยได้หวีเท่าไร มันดูยุ่งๆ และวุ่นวาย
และก็อาจจะไม่มีใครรู้อรินเธอสระผมด้วยสบู่ตั้งแต่พ่อและแม่ของเธอจากไป และนั้นก็ทำให้เส้นผมของเธอมันดูแปลกๆ กว่าคนอื่น มันดูกระด่างและแตกปลาย ซึ่งมันเป็นเรื่องแยกมากๆ สำหรับเด็กสาว
และเพราะในห้องของเธอก็ไม่มีหวี กระจกก็ไม่มี ทำให้เธอขาดหลายสิ่งหลายอย่างที่เด็กสาวควรจะมี
ความสุขเล็กๆ ของเธอคือการเก็บเงินไปนั่งกินหมูกระทะร้านประจำที่พ่อแม่ของเธอชอบพาไป แต่ตอนนี้มันเป็นการไปนั่งกินคนเดี่ยวแล้ว แม้เธอจะเหงามากๆ ก็ตาม
อรินไม่ได้รับการดูแลเรื่องอาหารการกินที่เหมาะสมเท่าไร นั้นก็เลยทำให้เธอตัวอ้วนมากๆ ในตอนนี้
“ไอ้สัตว์ มรึงกล้าตีบอลแรงขนาดนี้ได้ยังไง” เล็กพูดขึ้น แต่ในไม่ช้าจ๋อยและจิดก็วิ่งไปหาคนตีลูกวอลเลย์ในทันที พร้อมกระโดดถีบขาคู่พร้อมกัน
จากนั้นเด็กชายที่ตีลูกวอลเลย์ก็ล้มลงในทันที จากนั้นไม่นานริดและเล็กก็วิ่งเข้าไปด้วยแล้วเตะมันในทันที
“ปีดๆๆๆๆ ปีดดดดดด”
เสียงของอาจารย์ผู้สอนเป่านกหวีดเสียงดัง และในไม่ช้าเพื่อนก็เข้ามาช่วยกันห้ามอย่างรวดเร็ว
ส่วนอรินเธอยังคงงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่
.
.
.
ในไม่ช้าก็ได้เวลากลับบ้าน อรินเธอได้รู้ว่าเด็กเกเรทั้งสี่ถูกเชิญตัวผู้ปกครองทั้งหมด แต่ก็ดูจะไม่มีใครเกรงกลัวอะไรราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ
ก่อนกลับพวกเขาได้มาหาอรินและย้ำว่าไม่ต้องเป็นห่วงพวกเขา พร้อมสำทับว่าถ้ามีใครในโรงเรียนกล้าแกล้งอรินให้บอกพวกเข้าได้ในทันที แม้จะเป็นเด็กที่มีอายุมากกว่าพวกเขาก็ตาม
นั้นเพราะว่าเด็กเกเรทั้งสี่คนนี้ตัวใหญ่กว่าเด็กในวัยเดี่ยวกันอยู่เยอะมาทีเดี่ยว ในช่วงอายุ 14 ปี พวกเขาสูงเกิน 170 เซนติเมตรกันทุกคน
จากนั้นในระหว่างทางที่อรินเดินกลับบ้าน อรินก็พบว่าคุณลุงชายสูงวัยผู้ใจดีกำลังยืนรอเธออยู่
อรินยิ้มแล้วก็เข้าไปพูดคุยทันที
“สวัสดีคะคุณลุง”
“เป็นอย่างไรบ้างสุภาพสตรีตัวน้อย” ชายสูงวัยพูดพร้อมโน้มตัวเล็กน้อย
“หนูสบายดีคะ และคุณลุงละ”
ชายสูงวัยยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วตอบคำถาม “ข้าสบาย แต่ไม่ทราบว่าสุภาพสตรีตัวน้อยได้อ่านงานเขียนของข้าแล้วหรือยัง”
อรินทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะพูด “เมื่อวานหนูพยายามจะอ่านมัน แต่สุดท้ายก็นอนหลับ แถมตอนหลับหนูยังฝันแปลกอีกด้วย”
ชายสูงวัยมีสีน่าและท่าทางที่สดใสจากนั้นจึงกล่าวถามถึงเรื่องความฝันของอรินอย่างอยากรู้ ไม่นานอรินก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ชายสูงวัยฟังจนหมด
ชายสูงวัยยิ้มอย่างพอใจ ไม่นานทั้งสองก็กลับมาถึงบ้านของอรินที่ด้านล่างเป็นร้านกาแฟ
ชายสูงวัยนั่งที่เดิมพร้อมสั่งโกโก้โดยเขาย่ำว่าเขาชอบเครื่องดื่มที่อรินทำ อรินเองก็ดีใจที่ชายสูงวัยชอบดื่มโกโก้ของเธอเช่นเดี่ยวกัน
ไม่นานก็ถึงเวลาปิดร้าน ชายสูงวัยย้ำให้เธออ่านงานเขียนของเขาต่อไป และเขาจะรอถามความคิดเห็นของอรินเมื่อเธออ่านจบ
และนั่นก็ทำให้อรินเมื่อเก็บร้านเสร็จเธอก็ขึ้นไปชั้นบนสุดของบ้านซึ่งเป็นตึกแถว ห้องเล็กๆ ซึ่งเป็นห้องของเธอ
เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบกลับมาเปิดหนังสือของชายสูงวัยในทันที เธอเริ่มอ่านมันอีกครั้ง อรินมีนิสัยชอบพับหน้าหนังสือที่เธออ่าน เพื่อที่จะทำให้ตัวเองรู้ว่าได้อ่านหนังสือไปถึงหน้าไหนแล้ว เพราะหลายๆ ครั้งเธอชอบลืมว่าอ่านไปถึงไหนแล้ว
แต่เมื่อเธอพยายามจะเปิดหนังสือของชายสูงวัยเธอก็พบว่าหน้าที่ถูกพับไปถึงหน้าที่ 50 กว่าๆ แล้ว ทั้งๆ ที่เธอรู้สึกว่าเมื่อวานเธอแถบจะยังอ่านไม่จบหน้าแรกเลยด้วยซ้ำ
และครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อเธอกำลังจะพยายามอ่านมันเธอก็เริ่มง่วงนอนและก็ค่อยๆ หลับไป
.
.
.
เธอฝันอีกครั้ง…