– [เซี่ยซีหาน : อายุ 10 ปี 14 วัน] –
– [อายุขัย : 15 ปี 4 วัน “อายุขัยคนทั่วไปในโลกแห่งผู้วิเศษ คือ 60 ถึง 75 ปี แต่โชคร้ายหน่อยนะที่คุณถูกคำสาป และอีกไม่นานคุณก็จะตาย หาทางเข้าละ คุณต้องเอาตัวรอดให้ได้ หมายเหตุเล็กๆ คุณอาจจะไม่รู้ แต่ด้วยการถูกคำสาป ก่อนที่คุณจะตายนั้น คุณจะทรมานยิ่งกว่ามีคนเอาค้อนมาทุบลูกอัณฑะของคุณอีกนะ ใช่แล้วมันทรมานมากๆ และคุณต้องทรมานแบบจนกว่าจะตายหลายวัน เมื่อคำสาปออกฤทธิ์โดยสมบูรณ์”] –
– [องค์ปัญญา : 150 หน่วย “มนุษย์สามัญปกติมีความฉลาด หรือความสามารถการคิดวิเคราะห์อยู่ที่ 50 ถึง 75 หน่วย คุณฉลาดกว่าพวกเขาเล็กน้อย แต่ยังต่ำมากเมื่อเทียบกับเหล่าผู้วิเศษที่มีความสามารถในการเข้าใจในธรรมชาติอย่างสูงส่ง”] –
– [ศักยภาพร่างกาย : 3.6 หน่วย “แน่นอนว่าคุณเป็นแค่เด็ก 10 ขวบ แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องบอกให้คุณรู้ ศักยภาพด้านร่างกายของคุณห่วยแตกมาก เด็กในวัยเดียวกันกับคุณจะมีค่าศักยภาพร่างกายอยู่ที่ 5 ถึง 10 หน่วย ผู้ใหญ่ 125 ถึง 200 หน่วย โอเค แต่คุณป่วยและโดนคำสาปเราเข้าใจ เราหวังว่าคุณจะหาทางออกและไม่ตายง่ายๆ ละ”] –
…
– [“เส้นทางแห่งผู้วิเศษของคุณได้เริ่มต้นแล้ว ยินดีด้วย คุณอาจจะคิดว่า คุณโชคดีที่มีระบบนิ้วทองที่ช่วยโกง แต่แย่หน่อยนะ นี่ไม่ใช่ระบบแบบนั้นสักทีเดียว เราไม่มีของวิเศษให้คุณ ไม่มีสมบัติกันตาย หากคุณต้องตาย คุณก็จะตายจริงๆ สิ่งเล็กๆ ที่ระบบนี้จะมอบให้คุณคือ โอกาสที่คุณจะได้เติบโตไร้ขีดจำกัด และรู้ว่าตัวคุณอยู่จุดไหนของโลกแห่งผู้วิเศษใบนี้ คำแนะนำต่างๆ คือสิ่งที่ประเสริฐที่สุดที่ระบบมอบให้คุณ”] –
– [โอน่า : 0 หน่วย “โอน่า คือ หน่วยวัดพลังวิเศษที่อยู่ในร่างของผู้วิเศษ ยิ่งโอน่ามากก็หมายความว่าพลังของผู้วิเศษนั้นยิ่งแข็งแกร่ง”] –
…
“อะไรวะเนี่ย” เซี่ยซีหานพูดกับตัวเอง ตอนนี้ตัวเขาเหนื่อยและอ่อนล้าอย่างถึงที่สุด แถมยังไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่างเลย
ตรงหน้าของเขาราวกับปรากฏเป็นภาพโฮโลแกรมสามมิติ มีอักษรประหลาดมากมาย แต่สิ่งที่น่าแปลก ตัวเซี่ยซีหานกับรู้สึกว่า มันอ่านอักษรเหล่านั้นออกทั้งหมด
‘นอกจากนั้น…ที่นี่คือที่ไหน ทำไมรอบด้านตัวมันถึงมีแต่หิมะขาวโพลนไปหมด’ ซีหานพูดกับตัวเอง มันควรนั่งอยู่หน้าตกความไม่ใช่เหรอ
ตอนนี้ความหนาวเหน็บกำลังทิ่มแทงผิวจนไปถึงกระดูกของมัน
ในความหนาวเหน็บเซี่ยซีหานยกมือที่ด้านชาจากความหนาวขึ้นมา
สายตาของมันคล้ายจะพร่าเบลอ เซี่ยซีหานพบว่า มือของตัวเองที่ขยับมีขนาดเล็กเหลือเกิน
เซี่ยซีหานมึนงง พร้อมกับคิดกับตัวเองไปว่า ‘แม่เอ็งเถอะ นี่บิดาทำงานหนักถึงขนาดเห็นภาพหลอนแล้วเหรอ ก็แค่ไม่ได้นอนมาสี่วัน อัดเอสเปรสโซสูตรพิเศษสามช็อตเข้มๆ ต่อชีวิตให้ตาลืมได้ทุกๆ 3 ชั่วโมงเท่านั้น หรือว่าเพราะแบบนี้ เลยทำให้บิดาเห็นภาพหลอน’
เซี่ยซีหานคิดแบบนั้น ก่อนจะหมดแรงนอนราบไปกับพื้นหิมะ เสียงหอบหายใจของเซี่ยซีหานดังเป็นระยะระยะคล้ายคนใกล้ตาย
ถ้านี่เป็นความฝัน นี่แมร่งก็เป็นฝันที่ทรมานเกินไปแล้ว เซี่ยซีหานคิดแบบนั้น เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนตัวมันกำลังจะตายจริงๆ
ในขณะนั้นเองที่เซี่ยซีหานรู้สึกคล้ายจะจอดับหน้ามืด อีกเพียงนิดเดียวตัวมันคิดว่า คงได้ไปเจอหน้าพ่อหน้าแม่ที่จากไปแน่ๆ แล้ว สุดสายตาและภาพที่พร่าเบลอ เซี่ยซีหานคล้ายเห็นเงาคนกลุ่มใหญ่
มันพยายามเพ่งมอง แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ เพราะสิ่งที่เห็นเป็นชุดเสื้อผ้าที่ดูประหลาด ไม่เหมือนผู้คนในศตวรรษที่ 22 แบบตัวมันเลย
…
“ตรงนั้นมีเด็ก นายท่านตรงนี้นั้นมีเด็กขอรับ” เสียงผู้ชายแผดดังพร้อมนิ้วชี้มาที่เซี่ยซีหาน
เซี่ยซีหานยิ้มดีใจ ตอนนี้ไม่ว่าใคร ถ้าช่วยมันไม่ให้ตายได้ มันก็ดีใจเหลือเกิน หัวใจของเซี่ยซีหานได้แต่คิด ‘นิพวกเอ็ง ถ้าพวกเอ็งช่วยเด็กแล้ว ก็แวะช่วยตู… ด้วยนะ’
!ตุบ เซี่ยซีหานใบหน้าแนบไปกับหิมะ มันจอดับในที่สุด
…
1 สัปดาห์ผ่านไป เซี่ยซีหานได้มาอยู่ในโลกแห่งผู้วิเศษเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว
ตอนนี้มันกำลังนั่งอยู่ด้านข้างผู้ชายตัวใหญ่ แม้จะหนวดเครารุงรังไปบ้าง แต่เขาก็ใจดี
“เจ้าหนูต่อจากนี้เจ้าก็อยู่ที่นี่ละนะ” ถางอี้นายแห่งป้อมปราการยุทธภัณฑ์ขาว ผู้มีเส้นผมและหนวดสีน้ำตาลเขาพูดด้วยรอยยิ้ม หากไม่นับเรื่องหนวด นายป้อมถางอี้คนนี้ก็นับว่าหล่อสมชายชาตรีมาก เขาสูงใหญ่ร่างกายราวกับนายแบบ
เซี่ยซีหานยิ้มและพยักหน้ารับอย่างใสซื่อ มันรู้ตัวแล้วว่าตัวมันได้มาอยู่ในร่างเด็ก
เมื่อเซี่ยซีหานพยักหน้าอย่างรู้ความ เสียงทุ้มต่ำชายวัยกลางคน ที่มีหนวดรุงรังอีกคนในชุดหนัง พูดกับนายป้อมถางอี้ด้วยน้ำเสียงสลดสังเวช
ใจความมันก็ไม่ได้มีอะไรมาก นั่นคือชายวัยกลางคนผู้นี้ ได้ออกไปตรวจสอบที่มาของเซี่ยซีหาน ที่ตัวมันเองก็พึ่งรู้ตัวได้ไม่นานว่า มันมาอยู่ในร่างเด็กและโลกที่แปลกประหลาด
เซี่ยซีหานพยายามตั้งใจฟังสิ่งที่ลุงหนวดกำลังพูด สุดท้ายก็พบว่า ลุงหนวดผู้นี้คิดว่า เซี่ยซีหานเป็นเด็กที่รอดชีวิตโดยบังเอิญ จากขณะเดินทางที่ถูกโจรป่าปล้น พวกนั้นตายหมดแล้ว และอยู่ไม่ไกลจากที่ที่พวกเขาพบเซี่ยซีหานเท่าไหร่นัก
ที่นี่เป็นแดนเหนือเล็กที่ถูกเรียกว่า “มหาอาณาจักรเว่ย” ถูกปกครองโดยราชวงศ์เว่ยมานานหลายพันปี
คำว่า มหาอาณาจักร ทำให้เซี่ยซีหานรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ มันมีโอกาสได้สอบถามผู้คนที่อยู่ในป้อมปราการยุทธภัณฑ์ขาวว่า “มหาอาณาจักร” หมายถึงอะไรและยิ่งใหญ่แค่ไหน
ความหมายของมันทำให้เซี่ยซีหานตกตะลึง
มหาอาณาจักรประกอบด้วยอาณาจักรนับพัน จากห้าทวีป ใช่แล้ว…มหาอาณาจักรแห่งนี้มีทวีปเป็นของตัวเองถึงห้าทวีป
ชนชั้นของอาณาจักรไล่ตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้นที่ 5
ชั้นที่ 5 คือ มหาอาณาจักร ปกครองอาณาจักรชั้นที่ 1 ถึง 4 ทั้งหมดที่เป็นบริวาร แต่นี่ก็ไม่ได้หมายถึงการดูแลที่ทั่วถึง
โลกนี้วุ่นวาย
โดยเฉพาะอาณาจักรที่ป้อมปราการยุทธภัณฑ์ขาวตั้งอยู่ นี่คืออาณาจักรชั้น 1 ระดับต่ำสุด “หมีขาวแดนเหนือ” ถ้าหากให้เทียบกับโลกเดิมของเซี่ยซีหานที่นี่คงเทียบได้กับพื้นที่มณฑลหนึ่งของแผ่นดินใหญ่
ในอาณาจักรชั้น 1 มีอาณาเขตของตัวเองมากมายเรียกเป็นเมือง หมู่บ้าน ปราการขึ้นอยู่กับสถานที่ การปกครองอยู่ในระบบจ่ายส่วยภาษีเป็นรายคน ไม่มีการนับผลผลิต ส่วนส่วยภาษีที่ต้องจ่ายก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของจ้าวอาณาจักร
ซึ่งระบบแบบนี้น่าจะเกิดจากความง่ายในการคิดค่าใช้จ่าย
เมื่อคุณจ่ายส่วยนี้คุณจะได้ “โทเคน” ที่เป็นเหมือนบัตรประชาชนมา มันคือการได้สิทธิ์ในการคุ้มครอง และการเข้าเมือง หมู่บ้าน หรือป้อมปราการ
เช่นที่ป้อมปราการยุทธภัณฑ์ขาวแห่งนี้ ก็มีโทเคนของตัวเอง
แต่โทเคนนี้ก็ไม่ได้ใช้ได้ทุกที มันใช้ได้แต่ปราการยุทธภัณฑ์ขาวเท่านั้น
แต่ถ้ามีคนที่มีโทเคนศักดิ์สิทธิ์หรือโทเคนพิเศษจากอาณาจักร ที่ระดับสูงกว่ามาปรากฏตัวที่ปราการยุทธภัณฑ์ขาว ปราการยุทธภัณฑ์ขาวต้องเปิดให้คนที่มีโทเคนเหล่านั้น เข้ามาทันทีอย่างไม่อาจปฏิเสธ
นี่คืออำนาจของโทเคนศักดิ์ หรือโทเคนพิเศษต่างๆ ตามชนิด
โทเคนพิเศษเหล่านี้ ไม่ได้มีจำนวนมาก มันสังเกตได้ง่าย ถูกออกอย่างจำกัดโดยชนชั้นสูงที่ถูกเรียกว่า… “ผู้วิเศษ”
…
“เจ้าหนูต่อจากนี้เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัยนะ ข้าจะให้คนจัดหาที่อยู่ให้เจ้าเอง แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าต้องรู้ไว้ ป้อมปราการยุทธภัณฑ์ขาวของข้า ไม่ใช่ที่ของคนเกียจคร้าน แต่ด้วยเจ้ายังเยาว์วัย ข้าให้เวลาเจ้าสองปีอยู่ที่นี่ มองหาสิ่งที่ตัวเองทำได้และเรียนรู้มัน มีแต่คนที่มีประโยชน์ที่จะอยู่ที่นี่ได้ หากเจ้าคือตัวไร้ประโยชน์เมื่อครบสองปีเจ้าต้องจากไป มันอาจจะฟังดูโหดร้าย แต่นี่คือกฎของสถานที่แห่งนี้ เด็กน้อยข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ” ถางอี้นายแห่งป้อมปราการยุทธภัณฑ์ขาวยิ้มให้เซี่ยซีหานอย่างอบอุ่น
ส่วนเซี่ยซีหานได้แต่ฝืนยิ้มแห้งๆ แม้เวลาจะผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่ยิ่งเซี่ยซีหานรู้จักที่นี่ มันก็ได้แต่แอบหวาดกลัว
ทำไมกัน?
ลุงหนวดอีกคนเดินมาและจับมือเซี่ยซีหานเดินจากไป นายแห่งป้อมปราการนั้นไม่ได้มีเวลามากนักสำหรับคนธรรมดาโดยเฉพาะเด็ก